นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า #อุ๊งอิ๊ง #ต้องลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย
#ไต่สวน21สค #ถ่ายทอดสด
อ่านข่าวคำชี้แจงของแพทองธาร ชินวัตร ต่อศาลรัฐธรรมนูญ แล้ว
เห็นว่า เธอพยายามแก้ต่างต่อศาลว่า กระทำไปตามคำแนะนำของคนอื่น
เพื่อเป็นแนวทางให้ศาลวินิจฉัยว่า “บกพร่องโดยสุจริต” แบบเดียวกับคดีที่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญในอดีต ที่เคยวินิจฉัยให้นายทักษิณชนะคดีซุกหุ้นคนขับรถ คนใช้ 8:7 ว่า ”บกพร่องโดยสุจริต“
งานนี้“ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ”
ทีมงานศรีธนนชัยทางกฎหมาย คงจะเดินทางตามรอยเดิม พร้อมกระบวนการปล่อยข่าวลือ ถึงขนมมากมาย หลายร้อย หลายพันกิโล ถึงขนาดโต๊ะพนันรับแทงไม่อั้น ว่า รอด 5:4 ด้วย“บกพร่องโดยสุจริต”เหมือนกัน
ความเห็นส่วนตัวผมไม่เชื่อเช่นนั้น และยังมั่นใจในหลักนิติธรรมนิติรัฐที่ชัดเจนว่า การที่อุ๊งอิ๊งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์ส่วนตัวไปคุยปรึกษาความลับราชการแผ่นดินกับนายฮุนเซน
และการพบปะพูดคุยกับนายฮวด รองนายกเทศมนตรี กรุงพนมเปญ ที่ รร.โรสวู้ด ในกรุงเทพมหานคร ก่อนจะต่อโทรศัพท์ 3 สายคุยกับนายฮุนเซน นั้นเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหมวด 3 เรื่องความผิดต่อความมั่นคงนอกราชอาณาจักรไทยแน่นอน ซึ่งมีโทษจำคุก ตั้วแต่ 10 ปี จำคุกตลอดชีวิตจนถึงประหารชีวิต
ส่วนคดีที่ สว. ร้องนั้น หลักฐานที่ปรากฏต่อสื่อมวลชน และชัดเจนว่า เป็นคลิปเสียงทั้งสองฝ่ายจริงนั้น เป็นการกระทำผิดตามข้อบังคับจริยธรรมข้าราชการเมือง ในหลายประเด็นอย่างชัดเจน เป็นเหตุที่ศาลจะวินิจฉัยให้อุ๊งอิ๊งขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี เพราะ ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ผิดจริยธรรมร้ายแรง ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก
อาจมากถึง 9:0 หรือ8:1 หรือ7:2 ด้วยหลักฐานที่ชัดเจนมากมัดตัวขนาดนี้
ด้วยความเคารพศาลรัฐธรรมนูญมาตลอด ส่วนตัวยังนึกไม่ออกว่า จะรอดได้อย่างไร และสงสัยว่าคำวินิจฉัยว่า ไม่ผิด นั้น จะเขียนอธิบายให้เข้าใจชัดเจนอย่างไร
ผมจึงขอนำคลิปเสียงและคำถอดเทปฉบับของแท้ที่แปลภาษากัมพูชาอย่างถูกต้องและเป็นทางการของหน่วยราชการความมั่นคงของไทย มาให้ท่านทั้งหลายในกระบวนการยุติธรรม สื่อมวลชน และประชาชนได้รับทราบ
ทุกท่านลองอ่านเปรียบเทียบคลิปเสียงอย่างละเอียด ช้าๆชัดๆ จะสามารถเข้าใจถ่องแท้ว่า ในเนื้อหาคำพูดที่ใช้สื่อสารกันจริงๆ นั้น เป็นเทคนิคการเจรจาความระหว่างประเทศ ที่มีปัญหาข้อพิพาทการสู้รบไทยกัมพูชามีชีวิตประชาชนและทหารไทย เป็นเดิมพัน นั้น เป็นเรื่องแก้ตัวพอรับฟังว่า “บกพร่องโดยสุจริต”หรือ เป็นเรื่องเท็จที่หกาอ้างเพื่อไม่ต้องการรับผิดทางกฎหมายครับ
สุดท้าย เพื่อพิสูจน์ความจริงทั้งหมดนี้
เพื่อประโยชน์ต่อคดีและประโยชน์ต่อสาธารณะ ในวันที่ 21 ส.ค.2568
ที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกไต่สวนพยาน 2 ปากคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นั้น
ขอกราบเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ควรอนุญาตให้ถ่ายทอดสดผ่านสื่อในการไต่สวนบุคคลทั้ง 2 ราย ให้พี่น้องประชาชนไทยทั้งประเทศ ได้รับทราบไปพร้อมกันด้วยครับ
ด้วยความเคารพต่อศาลรัฐธรรมนูญ และเชื่อมั่นในหลักนิติธรรม
สมชาย แสวงการ
อดีตสมาชิกวุฒิสภา
15 สค 2568
หมายเหตุ การนำเสนอข้อมูลนี้เพื่อประกอบความเข้าใจในการติดตามคดี ขอความกรุณาทุกท่านอย่าวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ ที่ละเมิดอำนาจศาลและกระบวนการยุติธรรมด้วยครับ