นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า #ข้อสงสัยต่อคำชี้แจงของอุ๊งอิ๊ง
ผมอ่านคำชี้แจงที่เสนอศาลรัฐธรรมนูญ ของอุ๊งอิ๊ง กรณีคลิปเสียง ผมมีข้อสงสัยแยกเป็น 5 ประเด็นคือ
1.อุ๊งอิ๊งพูด อยากได้อะไรดีให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้
อุ๊งอิ๊งชี้แจงว่า เขามีแต่เพียงเจตนาที่ต้องการให้คู่เจรจาได้เสนอเงื่อนไขหรือความต้องการออกมาก่อน เมื่อสมเด็จฮุน เซน ได้เสนอให้ฝ่ายไทยต้องยอมเปิดด่านก่อน แล้วฝ่ายกัมพูชาจะเปิดด่านหลังจากนั้นภายใน 5 ชั่วโมง เขาก็เสนอกลับไปว่าให้เปิดด่านพร้อมกัน ไม่ได้ทำตาม
อุ๊งอิ๊งยังบอกว่า เขายังไม่ตอบรับ กับข้อเสนอฮุนเซน เพราะต้องนำเงื่อนไขดังกล่าว ไปพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงก่อน
สิ่งที่ผมสงสัย อุ๊งอิ๊งคงลืมไปว่า ข้อความที่เสนอฮุนเซน อุ๊งอิ๊งไม่ใช่พูดแค่ครั้งเดียว ในช่วงหลังของคลิป ที่บอกว่าจะไปคุยกับกระทรวงกลาโหม ก็ยังมีการเสนอให้พี่ฮวดลองพูดด้วยว่า "ท่านฮุนเซนอยากได้อะไร ก็ให้บอก จะได้คุยกันได้ ตกลงกันได้"ถือพูดคำนี้ครั้งที่สอง
แค่นั้นยังไม่พอ หลังจากพูดถึงความสั่นคลอนของรัฐบาล เพราะฮุนเซนโพสต์ก็ยังเสนออีกว่า "ถ้าจะเอาอะไรจริงๆ ให้บอกอิ๊งค์ได้เลย ยกหูบอกก็ได้ อันไหนไม่เป็นข่าว ก็คือไม่เป็นข่าว อันนั้นที่หลุดไปมันหลุดเพราะสื่อ เพราะไม่ได้คุยกับอิ๊งค์แค่ 2 คน"เป็นการพูดข้อความนี้ครั้งที่สาม
คำพูดเนื้อหาทำนอง การเสนอให้ฮุนเซนนี้ จึงไม่ใช่แค่อยากรู้ความต้องการ ของฮุนเซน แต่มีคำถามต่ออุ๊งอิ๊งว่า พยายามเสนอผลประโยชน์ หรือเสนอสินบน โดยเอาผลประโยชน์ของชาติไปเสนอ เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือไม่
2.อุ๊งอิ๊งชี้แจงว่า ไม่มีเจตนาจะได้มาซึ่งผลประโยชน์ส่วนตน
ในประเด็นนี้ ถ้าฟังคลิปเสียงทั้งหมด จะมีอยู่สองตอน ที่อุ๊งอิ๊งพูด และมีข้อสงสัยถึงการเจรจา เพื่อผลปรโยชน์ของตนเอง นั่นคือข้อความที่พูดว่า
"บอกว่าให้ท่านฮุน เซน เห็นใจหลานหน่อย เพราะว่าพักนี้คนในประเทศไทยเขาไล่เราไปเป็นนายกฯ ที่เขมรหมดแล้ว" และต่อด้วยคำพูด จริง ๆ แล้ว ถ้าท่านอยากได้อะไร ก็ให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ
คำพูดประโยคนี้ ให้ฮุนเซนเห็นใจ ก็แสดงว่า อุ๊งอิ๊งกำลังเสนอบางอย่าง เพื่อให้ฮุนเซนเห็นใจ ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวอุ๊งอิ๊งอยู่แล้ว และยังมีอีกประโยคที่พูดว่า
"ท่านฮุนเซนอยากได้อะไร ก็ให้บอก จะได้คุยกันได้ ตกลงกันได้ เพราะบางทีที่ท่านโพสต์เฟซบุ๊กออกมา ตอนนี้รัฐบาลสั่นคลอนที่สุดแล้วตั้งแต่อิ๊งค์เป็นนายกฯ มา ก็คือเรื่องกัมพูชานี่แหละ"
คำพูดทั้งสองช่วงดังกล่าว มันสามารถสงสัยได้ถึง สิ่งที่อุ๊งอิ๊งเสนอให้ฮุนเซน เพื่อต่อรอง หรือเสนอให้ฮุนเซน ก็เพราะต้องการให้ฮุนยอม และหวังสร้างเสถียรภาพให้รัฐบาลอุ๊งอิ๊งหรือไม่ นี่แหละคือประโยชน์ส่วนตนของรัฐบาลนี้ ใครว่าอุ๊งอิ๊งไม่มีเจตนา เพื่อนประโยชน์ส่วนตน
3.ถ้อยคำที่กล่าวถึงแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโท บุญสิน พาดกลาง) ว่าเป็นฝั่งตรงข้าม
คำชี้แจงของอุ๊งอิ๊งว่า เป็นเทคนิคในการเจรจา เพราะฮุนเซนไม่พอใจแม่ทัพภาค2
สิ่งที่ต้องเข้าใจ แม่ทัพภาค2 เป็นข้าราชการระดับสูง คนเป็นนายกรัฐมนตรี ผู้นำประเทศไปเจรจากับผู้นำประเทศ ที่มีความขัดแย้ง และไปตำหนิแม่ทัพแบบนี้ เป็นการทำลายเกียรติของข้าราชการ
ยิ่งคำพูดในคลิปจริงใช้คำว่า "ไม่อยากให้อังเคิลไปฟังฝั่งคนที่เป็นฝั่งตรงข้างกับเรา" ยิ่งสะท้อนให้ประชาชนเข้าใจได้ว่านายกไทย เป็นพวกเดียวกับผู้นำเขมร จึงไม่แปลกที่ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะสงสัยว่าขายชาติหรือไม่
คนเป็นผู้นำประเทศ ไปใช้คำพูดแบบนี้กับผู้นำต่างชาติ ยิ่งทำให้เสียเกียรติ และศักศรีของผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือว่าไร้ซึ่งมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
4.อุ๊งอิ๊งชี้แจงว่า ได้มีการชี้แจงและกล่าวคำขอโทษต่อแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโท บุญสิน พาดกลาง) แล้ว และแม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันต่อสาธารณชนว่าไม่ติดใจ
ต้องบอกอุ๊งอิ๊งนะครับว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างอุ๊งอิ๊งกับแม่ทัพภาค2 แต่เป็นเรื่องของอุ๊งอิ๊งกับประชาชนชาวไทย ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแม่ทัพ
ท่านแม่ทัพ ท่านมีวุฒิภาวะก็ต้องตอบว่าไม่ติดใจ แต่ประชาชนชาวไทย ยังติดใจในคำพูดแบบนี้
5.อุ๊งอิ๊งชี้แจงว่า สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ไม่ได้มีสถานะตามกฎหมายภายในของประเทศตน
สิ่งที่ต้องบอกอุ๊งอิ๊ง อย่าลืมว่าฮุนเซนคือผู้มีอำนาจที่แท้จริงของประเทศกัมพูชา ในคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ อุ๊งอิ๊งยังเขียนเลยว่า การที่สมเด็จฮุน เซน สั่งการให้มีการปิดด่านชายแดนของฝ่ายกัมพูชา เนื่องมาจากความไม่พอใจของสมเด็จฮุน เซนที่มีต่อแม่ทัพภาคที่ 2 แสดงว่าฮุนเซนนั้น เป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริง
หรือแม้แต่การเจรจาให้ฝ่ายไทยเปิดด่านก่อน เขมรจะเปิดตามไม่เกิน5ชั่วโมง ก็ยิ่งสะท้อน ว่าฮุนเซนเป็นผู้มีอำนาจจริง ถ้าฮุนเซนไม่มีอำนาจ อุ๊งอิ๊งจะเอาปัญหาไปคุยกับฮุนเซนทำไม แถมเสนอเรื่องอยากได้อะไรให้บอกถึง 3 ครั้งในการเจรจาครั้งนี้
นี่คือมุมเห็นแย้ง ต่อคำชี้แจงของอุ๊งอิ๊งต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคลิปเสียงที่คุยกับฮุนเซน และหวังว่าศาลท่าน จะได้ทำหน้าที่เป็นที่พึ่งให้กับประชาชน ยามที่ประชาชนรู้สึกว่าเหมือนไม่มีรัฐบาล