นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน เห็นชอบร่วมกันในการปรับปรุงภาคผนวกของ พิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการขนส่งผลไม้ผ่านประเทศที่สาม โดยเพิ่มด่านนำเข้า–ส่งออกผลไม้ของทั้งสองประเทศ เพื่อยกระดับความคล่องตัวด้านการขนส่งสินค้าเกษตรและขยายโอกาสทางการตลาด ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ประสานงานและหารือกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) มาอย่างต่อเนื่อง จนบรรลุข้อตกลงเพิ่มด่านในครั้งนี้ โดยฝ่ายไทยเพิ่ม 3 ด่าน ได้แก่ ด่านทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ด่านบ้านฮวก จังหวัดพะเยา และด่านภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ขณะที่ฝ่ายจีนเพิ่ม 2 ด่าน ได้แก่ ด่านเมิ่งคัง และ ด่านต๋าลั่ว ในมณฑลยูนนาน ทำให้ด่านในพิธีสารในการที่จะส่งออกผลไม้สดเพิ่มเป็น 9 ด่านฝั่งไทย และ 12 ด่านฝั่งจีน
นายชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า พิธีสารฉบับนี้ลงนามเมื่อ 13 กันยายน 2564 ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย กับ GACC เพื่อกำหนดมาตรการกักกันโรคและตรวจสอบผลไม้ที่ส่งออก–นำเข้าทางบกผ่านประเทศที่สาม โดยไม่จำกัดเส้นทาง และสามารถปรับเพิ่มด่านนำเข้า-ส่งออกได้หากทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ภายใต้บันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชไทย–จีน ซึ่งมี มกอช. เป็นผู้ประสานหลักของไทย
การส่งออกผลไม้สดของไทยไปจีนในปี 2567 คิดเป็นมูลค่ากว่า 180,000 ล้านบาท จีนยังคงเป็นตลาดหลักของผลไม้ไทย และมีบทบาทสำคัญต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศ
ทั้งนี้ หลังจากทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้เพิ่มด่านส่งออก-นำเข้าทั้ง 5 ด่านแล้ว จะสามารถนำเข้าส่งออกผลไม้สดผ่านด่านเหล่านี้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เป็นต้นไป อันจะเป็นการเพิ่มมูลค่าและขยายตลาดการค้าสินค้าเกษตรของไทยต่อไปในอนาคต