xs
xsm
sm
md
lg

แพทย์เผยกระหน่ำวิตามินรวมทุกวัน ไม่ช่วยยืดชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า กระหน่ำวิตามินรวมทุกวัน ไม่ช่วยยืดชีวิต

ชาวอเมริกัน 1 ใน 3 คนใช้มัลติวิตามิน (MV) โดยมีจุดประสงค์หลักคือเชื่อว่าสามารถป้องกันโรค

ทั้งนี้ ในปี 2022 คณะทำงานบริการป้องกันแห่งสหรัฐอเมริกา (US Preventive Services Task Force) ได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการเสริมวิตามิน MV และอัตราการเสียชีวิตจากการทดลองทางคลินิกแบบสุ่ม แต่พบว่ามีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะระบุประโยชน์หรืออันตรายได้ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากระยะเวลาการติดตามผลที่จำกัดและไม่สามารถยืนยันความถูกต้องได้ชัดเจน

รายงานนี้ เป็นการประเมินความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ MV กับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต โดยพิจารณาทั้งการใช้ MV เพื่อชีวิตที่มีสุขภาพดี และการใช้สำหรับบุคคลที่มีสุขภาพไม่ดี

การศึกษาใช้ข้อมูลจาก 3 การศึกษาในสหรัฐอเมริกา โดยที่แต่ละการศึกษามีข้อมูลการใช้ MV เบื้องต้น (ประเมินตั้งแต่ 1993 ถึง พ.ศ. 2001) และการติดตามผลการใช้ MV (ประเมินตั้งแต่ปี 1998 ถึง 2004)
ระยะเวลาการติดตามผลที่ยาวนานถึง 27 ปี และมีการจำแนกลักษณะของปัจจัยกวนที่อาจเกิดขึ้นอย่างละเอียด
ผู้เข้าร่วมเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีประวัติมะเร็งหรือโรคเรื้อรังอื่นๆ เข้าร่วมในการศึกษา National Institutes of Health–AARP Diet and Health Study (ผู้เข้าร่วม 327,732 คน) การศึกษาคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก ปอด ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และรังไข่ (ผู้เข้าร่วม 42,732 คน) การศึกษาสุขภาพทางการเกษตร (ผู้เข้าร่วม 19,660 คน) ข้อมูลได้รับการวิเคราะห์ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 ถึงเมษายน 2024

ทั้งนี้เป็นการรายงานการใช้MV ด้วยตนเอง

ผลลัพธ์หลักคือ อัตราการเสียชีวิต และใช้แบบจำลองความเสี่ยงตามสัดส่วนของค็อกซ์ Cox proportional hazard models เพื่อประมาณอัตราส่วนความเสี่ยง (HRs) และอยู่ในช่วงความเชื่อมั่น 95%

ผลการศึกษา ในกลุ่มผู้เข้าร่วม 390,124 คน (อายุเฉลี่ย [IQR] 61.5 [56.7-66.0] ปี; ชาย 216,202 [55.4%])

มีผู้เสียชีวิต 164,762 รายระหว่างการติดตามผล
ผู้เข้าร่วม 159,692 คน (40.9%) ไม่เคยสูบบุหรี่ ผู้เข้าร่วม 157,319 คน (40.3%) มีการศึกษาระดับวิทยาลัย
ในกลุ่มผู้ใช้ MV รายวัน 49.3% และ 42.0% เป็นผู้หญิง
และมีการศึกษาระดับวิทยาลัย เทียบกับ 39.3% และ 37.9% ในกลุ่มที่ไม่ได้ใช้ตามลำดับ
ผู้ใช้ MV รายวัน 11.0% เทียบกับ 13.0% ของผู้ไม่ใช้ ยังคงสูบบุหรี่อยู่

การใช้ MV ไม่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุที่ลดลงในช่วงครึ่งแรก (HR ที่ปรับด้วยตัวแปรหลายตัว 1.04; ช่วง CI 95% 1.02-1.07) หรือครึ่งหลัง (HR ที่ปรับด้วยตัวแปรหลายตัว 1.04; ช่วง CI 95% 0.99-1.08) ของการติดตามผล
HR มีค่าใกล้เคียงกันสำหรับสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและการวิเคราะห์ที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา

ผลสรุปจากการศึกษา การใช้ MV ไม่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ต่ออัตราการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ในสหรัฐอเมริกามีจำนวนหนึ่งที่รายงานว่าใช้ MV เพื่อรักษาหรือปรับปรุงสุขภาพ