นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ตลอดจนแนวทางการนำสันติภาพกลับมาสู่ชายแดนว่า ภายหลังการหยุดยิง เป้าหมายและยุทธศาสตร์ที่จะดำเนินไปในการเจรจาเพื่อนำสันติสุขกลับมาบริเวณชายแดนนั้น ตนขอเสนอดังนี้
1. ต้องเน้นการพูดที่กระชับรวดเร็ว Diplomacy of speed โดยเน้นการสื่อสารทางการทูต จุดยืนกฎหมายระหว่างประเทศและท่าทีของไทยให้รวดเร็วมากขึ้น และต้องรวดเร็วและแม่นยำกว่ากัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศมีศักยภาพที่จะทำได้
2. ต้องเน้นยุทธศาสตร์สร้างความชอบธรรมให้ประเทศไทยในเวทีโลกอย่างเข้มข้น เเข็งขันต่อเนื่อง เพราะเราเป็นประเทศมหาอำนาจขนาดกลาง ต้องเน้นกฎหมายระหว่างประเทศและความชอบธรรมเป็นหลังพิง แต่ก่อนอาจมีคำกล่าวว่า Might is right ก็คือพลังอำนาจ คือความถูกต้อง แต่ปัจจุบันตนคิดว่า Right is might ความถูกต้องเป็นพลังอำนาจ
3. ทางการทูตต้องตอกย้ำความชอบธรรมของไทยใน 5 ประเด็นอย่างต่อเนื่อง คือ ไทยมุ่งแก้ปัญหาโดยสันติวิธีด้วยการเจรจาทวิภาคีตามกรอบ MOU 2543 ไม่ประสงค์ที่จะให้มีการยกระดับไปเวทีนานาชาติ แต่กัมพูชาไม่ทำตามข้อผูกพัน กัมพูชาเป็นฝ่ายวางกับระเบิดละเมิดอนุสัญญาออตตาวา กัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกรานไทย ฝ่าฝืนกฎบัตรสหประชาชาติ ไทยเพียงใช้สิทธิป้องกันตนเอง กัมพูชายิงระเบิดใส่เป้าหมายทางพลเรือน เช่น โรงพยาบาล ร้านสะดวกซื้อ ละเมิดอนุสัญญาเจนีวา กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่มาเลเซียจัดขึ้น ซึ่งทั้ง 5 ประเด็นนี้จำเป็นจะต้องตอกย้ำในทุกเวทีอย่างต่อเนื่องให้ประชาคมโลกได้ทราบ
4. ในการเจรจาทวิภาคีระหว่างไทยและกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นเวทีจีบีซี ในวันที่ 4 สิงหาคม หรือ เจบีซี ในเดือนกันยายนหรือในเวทีอื่นๆ ก็ตาม ไทยซึ่งมีความสุจริตใจ good faith ในการเจรจาเพื่อระงับข้อพิพาทด้วยสันติวิธี ต้องเรียกร้องสิ่งนั้นจากกัมพูชาให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพราะจะมาที่โต๊ะเจรจาจะต้องพกความจริงใจมาด้วย มิฉะนั้นโอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะยากขึ้น และ
5. รัฐบาลควรจัดระบบการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพและเอกภาพมากยิ่งขึ้น เปิดใจฟังคำวิจารณ์แล้วปรับปรุงอย่างจริงจัง จุดสำคัญคือความรวดเร็วและความไม่กระจัดกระจายของการให้ข่าว นอกจากนั้นศูนย์ต่อต้าน Fake News ควรทำงานให้รวดเร็วมากขึ้น
นายนพดล กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเห็นว่าปัญหาไทย-กัมพูชา มีความซับซ้อนและคงต้องใช้เวลาในการแก้ไข ตนเชื่อมั่นในการปกป้องอธิปไตยของกองทัพ ถ้าการทูตไทยสามารถรักษาความชอบธรรมในเวทีโลก เน้นการสื่อสารให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชนอย่างทันท่วงที ไม่มีเฟกนิวส์ เชื่อว่าปัญหาจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งตนขอเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบและรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาต่อไป