"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง "ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนกรกฎาคม 2568" กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,171 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 26-31 กรกฎาคม 2568 โดยมีตัวชี้วัด 25 ประเด็นที่บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นต่อการเมืองไทยในด้านต่างๆ ซึ่งแต่ละตัวชี้วัดจะมีคะแนนเต็ม 10 คะแนน สรุปผลเรียงลำดับจากค่าคะแนนสูงสุดไปถึงต่ำสุด ได้ดังนี้
"ดัชนีการเมืองไทย" เดือนกรกฎาคม 2568 ภาพรวมคะแนนเต็ม 10 ได้ 3.86 คะแนน (เดือนมิถุนายน 2568 ได้ 4.13 คะแนน)
ประชาชนให้คะแนน 25 ตัวชี้วัด "ดัชนีการเมืองไทย" โดยคะแนนเต็ม 10 เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้
1. ผลงานของฝ่ายค้าน ได้ 4.36 ลดลงจาก 5.15 (ในเดือนมิถุนายน 2568)
2. สิทธิและเสรีภาพของประชาชน ได้ 4.34 ลดลงจาก 4.58
3. การพัฒนาด้านการศึกษาสำหรับประชาชน ได้ 4.33 ลดลงจาก 4.45
4. การมีส่วนร่วมของประชาชน ได้ 4.31 ลดลงจาก 4.38
5. การดำเนินงานของพรรคการเมืองโดยภาพรวม ได้ 4.20 เท่าเดิม
6. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของภาครัฐ ได้ 4.20 เพิ่มขึ้นจาก 4.11
7. ความมั่นคงของประเทศ ได้ 4.09 ลดลงจาก 4.15
8. สภาพสังคมโดยรวม ได้ 4.08 เท่าเดิม
9. การปฏิบัติตนและพฤติกรรมของนักการเมือง ได้ 3.89 ลดลงจาก 4.07
10. ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ได้ 3.89 ลดลงจาก 4.07
11. เสถียรภาพทางการเมือง ได้ 3.85 ลดลงจาก 4.02
12. ค่าครองชีพ เงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ ได้ 3.84 ลดลงจาก 4.05
13. การบริหารประเทศตามนโยบายที่ประกาศไว้ ได้ 3.83 ลดลงจาก 4.16
14. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ได้ 3.82 ลดลงจาก 4.05
15. กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ได้ 3.74 ลดลงจาก 3.99
16. การแก้ปัญหาต่างๆ ในภาพรวม ได้ 3.73 ลดลงจาก 3.99
17. ราคาสินค้า ได้ 3.72 ลดลงจาก 3.92
18. ผลงานของรัฐบาล ได้ 3.60 ลดลงจาก 4.06
19. การพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ได้ 3.60 ลดลงจาก 4.04
20. การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ความโปร่งใส ได้ 3.57 ลดลงจาก 3.98
21. การแก้ปัญหายาเสพติดและผู้มีอิทธิพล ได้ 3.54 ลดลงจาก 3.94
22. สภาพเศรษฐกิจโดยภาพรวม ได้ 3.53 ลดลงจาก 3.95
23. การแก้ปัญหาความยากจน ได้ 3.48 ลดลงจาก 3.92
24. การแก้ปัญหาการว่างงาน ได้ 3.45 ลดลงจาก 3.94
25. ผลงานของนายกรัฐมนตรี ได้ 3.43 ลดลงจาก 3.97
ทั้งนี้ ภาพรวม ได้ 3.86 ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2568 ที่ได้ 4.13
นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนคิดว่ามีบทบาทโดดเด่นในเดือนกรกฎาคม 2568
- นักการเมืองฝ่ายรัฐบาล
อันดับ 1 นายวราวุธ ศิลปอาชา 44.05%
อันดับ 2 นายภูมิธรรมเวชยชัย 29.85%
อันดับ 3 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร 26.10%
- นักการเมืองฝ่ายค้าน
อันดับ 1 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 45.79%
อันดับ 2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล 28.28%
อันดับ 3 นางสาวรัชนก ศรีนอก 25.93%
ผลงานของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนชื่นชอบในเดือนกรกฎาคม 2568
- ผลงานฝ่ายรัฐบาล
อันดับ 1 ทำหนังสือชี้แจงสหประชาชาติ 42.21%
อันดับ 2 ดูแลช่วยเหลือประชาชนชายแดนไทย 40.51%
อันดับ 3 นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย 17.28%
- ผลงานฝ่ายค้าน
อันดับ 1 ตรวจสอบการดำเนินงานของรัฐบาล 40.28%
อันดับ 2 ติดตามเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา 30.75%
อันดับ 3 การแก้รัฐธรรมนูญ 28.97%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า สถานการณ์ไทย-กัมพูชา กระทบความเชื่อมั่นประชาชนและ
ฉุดคะแนนดัชนีการเมืองไทยลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะผลงานนายกรัฐมนตรีที่ตกไปอยู่ลำดับท้ายเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังมีปัญหาปากท้อง และน้ำท่วมในหลายพื้นที่ บวกกับการทำงานของภาครัฐที่เดินเกมช้าเหมือนแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้า ทำให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถามและคาดหวังว่ารัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาให้เท่าทันความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์กัญญกานต์ เสถียรสุคนธ์ อาจารย์ประจ าหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า เดือนกรกฎาคมนี้ ประเทศไทยมีเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการทุจริตและประพฤติมิชอบที่ขัดต่อพระธรรมวินัยในวงการสงฆ์ การเจรจาต่อรองกำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกา คลิปเสียงระหว่างนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน การใช้กำลังปะทะของทหารตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา และสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือของประเทศไทย เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อดัชนีการเมืองไทย ทำให้ตัวชี้วัดแต่ละตัวมีค่าคะแนนลดลงในทุกประเด็น โดยเฉพาะประเด็นผลงานของนายกฯ ที่ตกต่ำที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของประชาชนต่อการทำงานของภาครัฐ และการสื่อสารที่ล่าช้าของฝ่ายรัฐบาลในการตอบโต้กับกัมพูชาเกี่ยวกับการปะทะทางทหารบริเวณชายแดน เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน สร้างผลกระทบอย่างยิ่งต่อความรู้สึกสูญเสียของคนไทยทั้งประเทศ ทั้งหมดนี้ส่งผลโดยตรงต่อดัชนีความเชื่อมั่นที่ลดลงของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล โดยยังมองไม่เห็นแนวทางที่จะฟื้นฟูหรือสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนให้กลับคืนมาในระยะเวลาอันใกล้
"ดัชนีการเมืองไทย" เดือนกรกฎาคม 2568 ภาพรวมคะแนนเต็ม 10 ได้ 3.86 คะแนน (เดือนมิถุนายน 2568 ได้ 4.13 คะแนน)
ประชาชนให้คะแนน 25 ตัวชี้วัด "ดัชนีการเมืองไทย" โดยคะแนนเต็ม 10 เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้
1. ผลงานของฝ่ายค้าน ได้ 4.36 ลดลงจาก 5.15 (ในเดือนมิถุนายน 2568)
2. สิทธิและเสรีภาพของประชาชน ได้ 4.34 ลดลงจาก 4.58
3. การพัฒนาด้านการศึกษาสำหรับประชาชน ได้ 4.33 ลดลงจาก 4.45
4. การมีส่วนร่วมของประชาชน ได้ 4.31 ลดลงจาก 4.38
5. การดำเนินงานของพรรคการเมืองโดยภาพรวม ได้ 4.20 เท่าเดิม
6. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของภาครัฐ ได้ 4.20 เพิ่มขึ้นจาก 4.11
7. ความมั่นคงของประเทศ ได้ 4.09 ลดลงจาก 4.15
8. สภาพสังคมโดยรวม ได้ 4.08 เท่าเดิม
9. การปฏิบัติตนและพฤติกรรมของนักการเมือง ได้ 3.89 ลดลงจาก 4.07
10. ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ได้ 3.89 ลดลงจาก 4.07
11. เสถียรภาพทางการเมือง ได้ 3.85 ลดลงจาก 4.02
12. ค่าครองชีพ เงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ ได้ 3.84 ลดลงจาก 4.05
13. การบริหารประเทศตามนโยบายที่ประกาศไว้ ได้ 3.83 ลดลงจาก 4.16
14. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ได้ 3.82 ลดลงจาก 4.05
15. กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ได้ 3.74 ลดลงจาก 3.99
16. การแก้ปัญหาต่างๆ ในภาพรวม ได้ 3.73 ลดลงจาก 3.99
17. ราคาสินค้า ได้ 3.72 ลดลงจาก 3.92
18. ผลงานของรัฐบาล ได้ 3.60 ลดลงจาก 4.06
19. การพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ได้ 3.60 ลดลงจาก 4.04
20. การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ความโปร่งใส ได้ 3.57 ลดลงจาก 3.98
21. การแก้ปัญหายาเสพติดและผู้มีอิทธิพล ได้ 3.54 ลดลงจาก 3.94
22. สภาพเศรษฐกิจโดยภาพรวม ได้ 3.53 ลดลงจาก 3.95
23. การแก้ปัญหาความยากจน ได้ 3.48 ลดลงจาก 3.92
24. การแก้ปัญหาการว่างงาน ได้ 3.45 ลดลงจาก 3.94
25. ผลงานของนายกรัฐมนตรี ได้ 3.43 ลดลงจาก 3.97
ทั้งนี้ ภาพรวม ได้ 3.86 ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2568 ที่ได้ 4.13
นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนคิดว่ามีบทบาทโดดเด่นในเดือนกรกฎาคม 2568
- นักการเมืองฝ่ายรัฐบาล
อันดับ 1 นายวราวุธ ศิลปอาชา 44.05%
อันดับ 2 นายภูมิธรรมเวชยชัย 29.85%
อันดับ 3 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร 26.10%
- นักการเมืองฝ่ายค้าน
อันดับ 1 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 45.79%
อันดับ 2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล 28.28%
อันดับ 3 นางสาวรัชนก ศรีนอก 25.93%
ผลงานของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนชื่นชอบในเดือนกรกฎาคม 2568
- ผลงานฝ่ายรัฐบาล
อันดับ 1 ทำหนังสือชี้แจงสหประชาชาติ 42.21%
อันดับ 2 ดูแลช่วยเหลือประชาชนชายแดนไทย 40.51%
อันดับ 3 นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย 17.28%
- ผลงานฝ่ายค้าน
อันดับ 1 ตรวจสอบการดำเนินงานของรัฐบาล 40.28%
อันดับ 2 ติดตามเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา 30.75%
อันดับ 3 การแก้รัฐธรรมนูญ 28.97%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า สถานการณ์ไทย-กัมพูชา กระทบความเชื่อมั่นประชาชนและ
ฉุดคะแนนดัชนีการเมืองไทยลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะผลงานนายกรัฐมนตรีที่ตกไปอยู่ลำดับท้ายเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังมีปัญหาปากท้อง และน้ำท่วมในหลายพื้นที่ บวกกับการทำงานของภาครัฐที่เดินเกมช้าเหมือนแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้า ทำให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถามและคาดหวังว่ารัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาให้เท่าทันความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์กัญญกานต์ เสถียรสุคนธ์ อาจารย์ประจ าหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า เดือนกรกฎาคมนี้ ประเทศไทยมีเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการทุจริตและประพฤติมิชอบที่ขัดต่อพระธรรมวินัยในวงการสงฆ์ การเจรจาต่อรองกำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกา คลิปเสียงระหว่างนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน การใช้กำลังปะทะของทหารตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา และสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือของประเทศไทย เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อดัชนีการเมืองไทย ทำให้ตัวชี้วัดแต่ละตัวมีค่าคะแนนลดลงในทุกประเด็น โดยเฉพาะประเด็นผลงานของนายกฯ ที่ตกต่ำที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของประชาชนต่อการทำงานของภาครัฐ และการสื่อสารที่ล่าช้าของฝ่ายรัฐบาลในการตอบโต้กับกัมพูชาเกี่ยวกับการปะทะทางทหารบริเวณชายแดน เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน สร้างผลกระทบอย่างยิ่งต่อความรู้สึกสูญเสียของคนไทยทั้งประเทศ ทั้งหมดนี้ส่งผลโดยตรงต่อดัชนีความเชื่อมั่นที่ลดลงของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล โดยยังมองไม่เห็นแนวทางที่จะฟื้นฟูหรือสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนให้กลับคืนมาในระยะเวลาอันใกล้