ดร.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา และ นักวิชาการด้านสื่อสารการเมือง ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ กล่าวว่า สถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา เปรียบเสมือนกับเพื่อนบ้านทะเลาะกัน และเอาไปพูดกันเองในครอบครัว ว่าฝั่งนั่นฝั่งนี้เป็นแบบนี้ และจะให้มีคนกลางมาตัดสินเหมือนกับผู้ใหญ่บ้าน คือพูดคุยกันเองในประเทศกันเอง แต่ไม่ได้สื่อให้ประชาคมโลกรับรู้ แต่อีกฝ่ายแจ้งให้รับรู้ ทำให้ประชาคมโลกได้รับสารฝ่ายเดียว ทำให้มีความสงสัยว่าสองประเทศนี้ทะเลาะเรื่องอะไรกัน ซึ่งไทยควรส่งสารให้ประชาคมโลกรับรู้และชัดเจนมากยิ่งขึ้น ถ้าไปพูดทีหลังจะทำให้เหมือนฝ่ายไทยแก้ตัว ตรงนี้คือการสื่อสารระหว่างการเมืองระหว่างประเทศ และเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน คือหลังจากนี้ไทยต้องชี้แจงและสื่อสารให้ประชาคมโลกรับรู้ แม้ไทยจะสู้รบชนะในสงคราม แต่จะทำให้ประชาคมโลกมองไม่ดีในด้านต่างๆ และไทยจะเสียเปรียบแม้ชนะศึก แต่จะไม่ชนะสงคราม ซึ่งถ้าจะชนะทั้งศึกและสงครามต้องทำการสื่อสารทางการเมืองระหว่างประเทศ ตอนนี้จะให้ดีต้องเริ่มต้นตั้งศูนย์บัญชาการในการแถลงข่าว ซึ่งจิตใจคนไทยตอนนี้อยู่ที่ชายแดน เพราะเราสูญเสียชีวิตคนไทยไปพอสมควร และมีผู้บาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหายอีกมากมาย สถานการณ์นี้รุนแรงกว่าตอนปี 2554 ฉะนั้นรัฐบาลควรจัดตั้งศูนย์บัญชาการและรายงานให้ประชาชนรับรู้อย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นนักข่าวต้องไปหาข่าว
ขณะเดียวกัน ต้องสื่อสารให้ประชาคมโลกรับรู้ด้วยอย่างชัดเจน และเป็นทางการ ซึ่งตอนนี้เรากำลังต่อสู้กันในการรบและเรื่องของพื้นที่และสู้เพื่อจะโน้มน้าวให้ประชาคมโลกให้มาอยู่ข้างไทย ฉะนั้นตรงนี้การสื่อสารสำคัญที่สุด ต้องออกมาสื่อสารหรือแถลงการณ์และต้องทำให้ทูตต่างๆ รับรู้กระบวนการต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะเหตุการณ์ที่เกิดในชายแดนทำให้บรรดาทูตต่างๆ ในประเทศไทยไม่สบายใจ และใจคอไม่ดี เขาคงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งควรต้องสื่อสารและโน้มน้าวทำให้เขาเข้าใจว่าปฏิบัติการของเราเป็นปฏิบัติการที่ดำเนินไปโดยไม่ขัดกับสนธิสัญญาออตตาวา เป้าหมายของเราจะเป็นเป้าหมายทางการทหารเพราะถูกยั่วยุมาก่อน ชี้ให้ว่าทางไทยมีการเสียหายมาก ทั้งโรงพยาบาท ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ ปะชาชน ซึ่งตอนนี้ไทยช้ากว่ากัมพูชาหนึ่งก้าวในเรื่องการสื่อสาร ถ้าไทยต้องการสื่อสารเชิงรุก ต้องมีการตั้งทีมขึ้นมาแล้วต้องมีความชัดเจนผู้ที่ออกมาแถลงว่าเป็นใคร และหลังจากนี้ต้องการแจ้งข่าวสารอย่างเป็นระบบเพื่อที่จะให้ต่างประเทศรับรู้และยอมรับ
ส่วนประชาชนไทยก็ควรต้องสื่อสารในลักษณะนี้เป็นแค่เรื่องความขัดแย้งระหว่างชายแดน แต่ประชาชนไทยกับเขมรไม่ได้ขัดแย้งกัน ซึ่งเราไม่ควรเป็นศัตรูกันซึ่งกันละกัน ควรจะมีการสื่อสารกันเพื่อจะป้องกันความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นมา