xs
xsm
sm
md
lg

ปภ.ติดตามสถานการณ์อุทกภัย-ดินถล่มจาก"พายุวิภา”ใกล้ชิด กำชับเร่งช่วยเหลือ ปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (27 ก.ค.) นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มจากพายุ “วิภา” กำชับจังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยอุทกภัยอย่างครอบคลุมและทั่วถึง เน้นการสูบระบายน้ำ ดูแลประชาชนด้านการดำรงชีพ และฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว ประสานจังหวัดท้ายน้ำจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขง และลุ่มน้ำเจ้าพระยา เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยและน้ำโขงล้นตลิ่งอีก พร้อมสั่งการศูนย์ ปภ. เขต ให้ตรวจสอบและเตรียมเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ให้พร้อมออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างทันท่วงที โดยมีผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตที่ดูแลพื้นที่ประสบภัยและพื้นที่เสี่ยงภัย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนหน่วยงานภายในของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าร่วมประชุม ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

นายสหรัฐ เปิดเผยว่า ปภ.ได้ติดตามการเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อน “วิภา” อย่างใกล้ชิดโดยจากพายุ "วิภา" ได้เคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบนและภาคเหนือตอนบน ส่งผลให้มีหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม โดยระหว่างวันที่ 21 ก.ค. 68 – ปัจจุบัน (วันที่ 27 ก.ค. 68) มีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 9 จังหวัด (น่าน เชียงราย พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ สุโขทัย และเลย) รวม 55 อำเภอ 263 ตำบล 1,416 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 33,899 ครัวเรือน 115,855 คน มีผู้สูญหาย 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบัน (27 ก.ค. 68 เวลา 06.00 น.) ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ น่าน เชียงราย แพร่ และสุโขทัย 23 อำเภอ 108 ตำบล 450 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,790 ครัวเรือน 76,868 คน โดยระดับน้ำในภาพรวมลดลง มีเพียงจังหวัดสุโขทัยที่มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น

“ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” ในหลายพื้นที่ได้เริ่มคลี่คลายลงและเข้าสู่ระยะการพื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่สภาพเดิม เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วที่สุด ขอให้จังหวัดบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการฉีดล้างและทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน ถนนหนทาง ตลอดจนพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ให้กลับสู่สภาพเดิมก่อนเกิดสถานการณ์โดยเร็ว จัดทีมช่างเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน สิ่งสาธารณูปโภคพื้นฐาน ระบบไฟฟ้า ประปา และการสื่อสาร ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ รวมทั้งประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เร่งสำรวจความเสียหาย จัดทำบัญชีความเสียหายทุกด้านเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว สำหรับพื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์ ให้จังหวัดดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง ประสานหน่วยงานที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนมูลนิธิ อย่างใกล้ชิดและแบ่งพื้นที่การทำงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และครอบคลุม ส่วนจังหวัดที่ยังมีสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังขอให้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนทันทีที่ได้รับการประสานจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” นายสหรัฐ รองอธิบดี ปภ. กล่าว

นายสหรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้สถานการณ์โดยภาพรวมมีแนวโน้มดีขึ้น แต่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เรายังคงติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเขตพื้นที่จังหวัดท้ายน้ำ ได้แก่ แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก และจังหวัดพิจิตร ที่อาจได้รับผลพวงจากสถานการณ์อุทกภัยในเขตพื้นที่ต้นน้ำในช่วงวันที่ 27 – 29 กรกฎาคม 2568 และพื้นที่ในลุ่มน้ำโขงที่ยังคงต้องเฝ้าระวังระดับน้ำโขงล้นตลิ่งอย่างใกล้ชิด โดยขอให้จังหวัดที่มีความเสี่ยงเกิดอุทกภัยเหล่านี้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดเพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมอพยพสิ่งของขึ้นที่สูง โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ หากสถานการณ์ในพื้นที่มีความเสี่ยงอันตราย ให้จังหวัดประสานกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติเพื่อแจ้งเตือนภัยให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยด้วย Cell Broadcast ทันที นอกจากนี้ ขอให้เตรียมพร้อมอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยหากมีการแนวโน้มที่สถานการณ์จะรุนแรง ในส่วนของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ให้ตรวจสอบและเตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมออกปฏิบัติงานในกรณีที่เกิดอุทกภัยในพื้นที่รับผิดชอบ และเตรียมการทำงานรองรับกรณีได้รับมอบหมายภารกิจในพื้นที่อื่นเพิ่มเติม

”กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) พร้อมประสานการทำงานในทุกระดับและสนับสนุนการทำงานของจังหวัดในทุกมิติ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย ประชาชนปลอดภัย สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ โดยสามารถติดตามสถานการณ์น้ำ ปริมาณฝนสะสม พยากรณ์อากาศ และประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยได้ทางแอปพลิเคชัน Thai Disaster Alert (TDA) และติดตามข้อมูลข่าวสารสาธารณภัย ความคืบหน้าสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews และหากประชาชนพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อนผ่าน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือต่อไป” นายสหรัฐ รองอธิบดี ปภ. กล่าวปิดท้าย