นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อ 25 ก.ค. 2568 โดยแจ้งการชุมนุมของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยเลื่อนจากวันที่ 27 ก.ค. เป็นวันที่ 2 ส.ค. เพราะต้องประเมินสถานการณ์สงครามไทย-กัมพูชา อีกหนึ่งสัปดาห์
อีกทั้งกล่าวว่า คณะรวมพลังแผ่นดิน ยังมีภารกิจหลายอย่างต้องดำเนินการความพร้อม แต่ช่วงนี้ประชาชนสามารถบริจาคเครื่องอุปโภค-บริโภค และสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสงครามชายแดนไทย-กัมพูชาได้ตามปกติ โดยเบื้องต้นกำหนดจุดรับบริจาคที่บริเวณชุมนุมของ คปค. ข้างสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล หรือหากสะดวกนำมาฝากที่สถานีโทรทัศน์พีซทีวีได้ ซึ่งสิ่งของและเงินทั้งหมดจะมอบให้กองทัพนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ศูนย์พักพิงชายแดน
ส่วนทักษิณ ชินวัตร โพสต์ทำศึกสั่งสอนสมเด็จฮุนเซนนั้น แม้เป็นการแสดงความรู้สึกส่วนตัว แต่การสู้รบของสองประเทศทำให้ทหารและประชาชนไทย-กัมพูชา ต้องเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้น จึงไม่สมควรนำประชาชนเป็นเหยื่อความขัดแย้งของ 2 ตระกูล
อย่างไรก็ตาม ประชาชนแนวหลังย่อมมีสิทธิชุมนุมแสดงพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยและเรียกร้องสันติวิธี เพราะเป็นหน้าที่ของแนวหลัง ซึ่งไม่เกี่ยวกับการสามัคคีรัฐบาลไปทำศึกสงคราม 2 ตระกูลจนลุกลามทำให้ประชาชนเดือดร้อนทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
"สิ่งสำคัญในยามศึกสงคราม เราไม่มีวันเข้าข้างกัมพูชา เราเป็นคนไทยต้องเข้าข้างไทย ขอรัฐบาลอย่าเห็นแก่ตัว อย่าเอาแต่เอะอะ โวยวายว่าจะถูกขับไล่ เพราะรัฐบาลคุณต้องไปอยู่แล้ว ส่วนการชุมนุมพลังแผ่นดินเป็นการแสดงออกซึ่งความรักชาติบ้านเมือง โดยยามสงครามประเทศอารยะทั่วโลก ประชาชนได้แสดงออกเช่นกัน ดังนั้นรัฐบาลอย่าได้วิตก"
ขณะที่การไต่สวนของศาลฎีกานักการเมืองกรณีทักษิณ ชั้น 14 นั้น นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อ 25 ก.ค. ศาลฎีกาฯ ไต่สวนแพทยสภา โดยมีข้อมูลระบุถึงการส่งตัวไป รพ.ตำรวจ ไม่ได้ตรวจระบบหัวโรคอย่างฉับพลัน แต่มาตรวจเมื่อผ่านมาแล้ว 36 ชั่วโมง ดังนั้น สะท้อนว่า อาการป่วยไม่ได้วิกฤตตามที่ รพ.ราชทัณฑ์ อ้างส่งตัวเร่งด่วนไปรักษาที่ รพ.ตำรวจ
นอกจากนี้ อีกหลายอาการป่วยที่ราชทัณฑ์อ้างต้องไปรักษา รพ.ตำรวจ ก็หาความน่าเชือถือไม่มี จึงสะท้อนอนาคตอภิสิทธิ์ชนของทักษิณหาไม่เจอ ขณะที่การไต่สวนนายวิษณุ เครืองาม นัดสุดท้ายวันที่ 30 ก.ค. นี้ คาดว่าหลังจากนั้นศาลฎีกาอาจจะแจ้งวันมาฟังคำวินิจฉัย
ไม่เพียงเท่านั้น ถัดมาวันที่ 31 ก.ค. ถึงคิวคดีของนายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ต้องส่งคำชี้แจงต่อศาล รธน. กรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ซึ่งเป็นต้นเหตุให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียด แล้วบานปลายเป็นการสู้รบกันในขณะนี้
ดังนั้น เมื่อคดีของทักษิณ-นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ใกล้เวลาศาลจะตัดสิน จึงไม่ใช่เรื่องที่ใครจะมาอ้างสถานการณ์สงครามเพื่อรักษาให้ใครคนใดคนหนึ่งรอดพ้นคดีไปได้ เพราะสงครามที่เกิดขึ้นขณะนี้ คนทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยคือ ทหาร
"ส่วนรัฐบาลไม่รู้ทำอะไร นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ อ่านแถลงการณ์ชี้แจงปัญหาการสู้รบด้วยท่าทางไม่มีความสง่างาม ไม่สมารท์ ไร้การมีส่วนร่วมในการรักษาบ้านเมืองเลย เอาแต่ตีก้มหน้าก้มตาอ่านอย่างเดียว อ่านจบก็เดินจากไปแบบทึมทึก"
นายจตุพร กล่าวถึงนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศว่า ดูเหมือนยามสงครามไทยไม่มี รมว.ต่างประเทศมาทำหน้าที่สื่อสารกับต่างประเทศ การอ้างว่า ไปประจำอยู่สหประชาชาติ หรือยูเอ็น เพื่อคอยชี้แจงข้อมูลให้ต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยมากกับการเทียบถึงความตึงเครียดในประเทศที่ประชาชนเผชิญกีบภัยสู้รบไทย-กัมพูชา จนที่สุดต้องถูกเรียกตัวกลับไทย
อีกทั้งกล่าวว่า มีการคาดการณ์ว่า สงครามยังไม่ยุติกันง่ายๆ ยกเว้นผู้นำทั้ง 2 ตระกูลเกิดความตกผลึกว่า ประชาชนสองฝ่ายเดือดร้อนกันพอแล้ว ต้องเลิกแล้วต่อกันภายใต้เงื่อนไขจะไม่สร้างปัญหาขึ้นมากันอีก
"ผมเชื่อว่า ถ้าเลือกได้ไม่มีใครกระหายสงครามหรอก สุดยอดตำราพิชัยสงครามซุนวูคือ การไม่รบ แต่เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะต้องรบต้องรู้เขารู้เรา ดังนั้น เมื่อสถานการณ์หลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องดำรงอยู่ที่การปกป้องอธิปไตยของชาติ เพราะถือเป็นภาระหน้าที่รักษาแผ่นดินไว้ให้คนรุ่นต่อไป"
พร้อมทั้งกล่าวถึงการเจรจายุติสงครามโดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย และประธานอาเซียน เป็นตัวกลางว่า ทั้งไทย-กัมพูชา ต่างมีคนอยู่เบื้องหลังสั่งการเหมือนกัน ไทยมีเสมียนประเทศคอยกำกับทำสงครามสั่งสอน ส่วนสมเด็จฮุนเซน บัญชาการเบื้องหลังนายกฯ กัมพูชา ที่เป็นลูกชาย ดังนั้น การนัดให้ฮุนมาเนต นายกฯ กัมพูชา กับนายภูมิธรรม มาเจรจากัน จึงต้องได้รับไฟเขียวของผู้กำกับอยู่เบื้องหลังทั้งสองคนก่อน
สิ่งสำคัญ การเจรจาที่จะเกิดขึ้น ทำให้เข้าใจว่า ทักษิณ ทำสงครามสั่งสอนพอแล้วใช่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากสงครามยุติลงได้ย่อมดีกับประชาชนทั้งสองฝ่าย แต่เมื่อยุติไม่ได้ก็เป็นหน้าที่ของประชาชนสำแดงพลังปกป้องแผ่นดินเพื่อให้ยุติสงคราม หยุดความสูญเสียชีวิตของทหารและประชาชนตามแนวชายแดน
ประเทศไทยต้องมาก่อน