xs
xsm
sm
md
lg

รมว.ทส.สั่งกรมอุทยานฯ ระดมกำลังพล​ -รถ-เรือ​-อุปกรณ์จำเป็น ช่วยผู้ได้รับผลกระทบพายุวิภา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดร.เฉลิมชัย​ ศรีอ่อน​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระดมกำลังพลและอุปกรณ์เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุ "วิภา" ในพื้นที่ภาคเหนือและพื้นที่เสี่ยงเกิดภัยพิบัติ​น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มทั่วประเทศ

นายอรรถพล​ เจริญชันษา​ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ​ สัตว์ป่า​ และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า​ สืบเนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด​ ทส.​ ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชน จึงได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติฯ​ ระดมสรรพกำลัง​ ยานพาหนะทั้งทางบกและทางน้ำ​ รวมทั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นเข้าช่วยเหลือ​พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยกรมอุทยานแห่งชาติฯ​ ได้เตรียมพร้อมกำลังพล​ จำนวน​ 12,694 นาย​ รถยนต์​ 2,510 คัน​ เรือ 141 ลำ​ เครื่องสูบน้ำ​ 257 เครื่อง​ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า 205 เครื่อง​ ชุดกู้ชีพกู้ภัย​573 ชุด​ อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) 102 ลำ​ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็น เช่น เครื่องเตือนภัย, วิทยุสื่อสาร, GPS และเลื่อยโซ่ยนต์ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุด

นายอรรถพล เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุพายุในหลายพื้นที่ของประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบหนัก กรมอุทยานแห่งชาติฯ​ ได้ส่งกำลังพลเข้าช่วยเหลือ จํานวน 270 คน​ จาก​ 28 หน่วยงาน​ ยานพาหนะ จํานวน 22 คัน​ ประกอบด้วย​ ร่วมค้นหาผู้ประสบภัยสูญหาย​ ตัดทอน และชักลากต้นไม้ที่ล้มขวางถนน เปิดเส้นทางการสัญจร​ ช่วยทำความสะอาดถนน ทําความสะอาดบ้านเรือน ร้านค้า และสถานที่ราชการ​ลอกท่อระบายนํ้า​ เป็นต้น​ และยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วนเพื่อร่วมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในแต่ละพื้นที่อย่างเต็มกำลัง ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำตกและแหล่งน้ำต่าง ๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติและพื้นที่อนุรักษ์ทั่วประเทศ ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์มีความรุนแรงและเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ให้ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวทันที พร้อมแจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวล่วงหน้า เพื่อป้องกันเหตุการณ์วิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที​ ทั้งนี้หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือแจ้งเข้ามาได้ที่สายด่วน​ 1362 ตลอด​ 24 ชั่วโมง