ศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณากรณีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัวหรือไม่ ตามมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4)(5) หรือไม่
คำร้องดังกล่าว สมาชิกวุฒิสภาได้เข้าชื่อส่งต่อประธานวุฒิสภากล่าวอ้างถึงถูกร้องทั้งสอง มีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้งโดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา อันเป็นการกลั่นแกล้ง กดดัน ข่มขู่และครอบงำสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจและฝ่าฝืนหลักนิติธรรม ถือได้ว่าไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรมเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้ว เห็นว่าให้คู่กรณียื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 60 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ 2562 ข้อ 25 ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป