พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามต่อความมั่นคงพื้นที่ชายแดน (ผอ.ศอ.ปชด.) เปิดเผยว่า ไทยเตรียมจัดตั้ง "หน่วยเฉพาะกิจนานาชาติ" ภายในกลางเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาชาติในการกวาดล้างขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นภัยคุกคามคนทั้งโลก
พล.อ.ทรงวิทย์ ระบุว่า มีการแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการเป็น 2 โซน โดยโซนแรกคือฝั่งเมียนมา ซึ่งไทย เมียนมา และจีน ร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีและผู้แทนระดับสูง เห็นพ้องให้เดินหน้าแก้ปัญหาร่วมกัน โดยพบว่าปัจจุบันไทยส่งผู้ต้องสงสัยกลับไปแล้วกว่า 8,000 คน จากเป้าหมายทั้งหมดราว 50,000 คน
ส่วนโซนที่สองคือฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก และฝั่งเมียวดี ซึ่งจีนประเมินว่าเป็นฐานใหญ่ของแก๊งข้ามชาติ ทางเมียนมาได้ใช้กฎหมายสั่งยุติบริษัทต้องสงสัยหลายแห่ง และมีหมายจับจากต่างประเทศเพิ่มเติม รวมถึงใช้มาตรการตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต และน้ำมันเพื่อกดดัน ทำให้กลุ่มขบวนการเริ่มโยกย้ายฐานไปยังภาคตะวันออก ซึ่งหน่วยเฉพาะกิจ 88 จะเข้าไปดำเนินการเพิ่มเติม
พล.อ.ทรงวิทย์ ย้ำว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากนานาชาติ เพราะขบวนการคอลเซ็นเตอร์มีผู้ตกเป็นเหยื่อหลากหลายสัญชาติ และพบว่ามีผู้ที่ถูกหลอกให้ทำงานในระบบนี้จากกว่า 20 ประเทศ โดยจีนและเมียนมาเป็นประเทศหลักที่ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับไทย
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า แม้สถานการณ์ขบวนการสแกมเมอร์ฝั่งกัมพูชาจะลดลง แต่ยังมีการหลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนสูญเสียทรัพย์สินหรือแม้แต่ชีวิต จึงขอให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่เข้มข้นต่อไป
นายธนกร ระบุว่า มาตรการฝั่งไทย ทั้งการตัดน้ำ ตัดไฟ ควบคุมอินเทอร์เน็ต และเข้มด่านชายแดน ทำให้ขบวนการเหล่านี้ชะงักลงอย่างมาก และยังส่งผลให้บ่อนปอยเปตในกัมพูชากว่า 10 แห่ง เตรียมปิดตัวสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ เพราะขาดนักพนันจากฝั่งไทย ถือเป็นแนวทางที่มาถูกทางและควรเดินหน้าต่อเนื่อง