xs
xsm
sm
md
lg

"วิสุทธิ์"เมินนิด้าโพลแนะ"แะทองธาร"ลาออก ขออย่าดึง"บิ๊กตู่"มาอีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพล ที่ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควรลาออกจากตำแหน่ง และสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตจากพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นนายกฯ ว่า ตนไม่เข้าใจว่าโพลถามอย่างไร ตนไม่ทราบ เรารับฟัง แต่ในข้อเท็จจริงนั้น สส. ที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด มาเล่าให้ฟัง ก็ยังยืนยันว่ายังสนับสนุนนางสาวแพทองธาร ซึ่งขั้นตอนในการเลือกนายกฯ วันนี้นายกรัฐมนตรียังเป็นนางสาวแพทองธาร สมมติถ้าเกิดอุบัติเหตุก็ยังมีนายชัยเกษม นิติสิริ และยังมีอีกหลายท่าน ไม่ใช่อยู่ๆ ไปดึงคนนอกเข้ามา ขั้นตอนนั้นมีอยู่ อย่าข้ามขั้นตอนกันไปไกล และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นองคมนตรี ไม่ควรไปดึงท่านลงมาอีก ตนถือว่าท่านได้ทำงานมา 9 ปี ก็พอสมควรแล้ว ไม่ทราบว่าผลโพลถามชี้นำอย่างไร ตนไม่ทราบ ไม่อยากวิจารณ์ ในพรรคเพื่อไทยเรายืนยันว่ายังเป็นนางสาวแพทองธารอยู่ และถามไปในพื้นที่ สส. ที่กลับมาจากต่างจังหวัดก็ยังมีความมั่นใจ

เมื่อถามว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นมาจริงๆ กับนางสาวแพทองธาร ทางพรรคเพื่อไทยจะเสนอนายชัยเกษม ไม่เสนอแคนดิเดตจากพรรคอื่นในพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า แน่นอนอยู่แล้ว ข้อเท็จจริงเรามีแคนดิเดตในพรรคเรา จะไปเสนอคนอื่นทำไม แต่ตนคิดว่าไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองอะไร วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือปัญหาภาษีทรัมป์ ที่น่าสนใจมากกว่า รวมทั้งปัญหาชายแดน ที่เป็นปัญหามากกว่าที่จะให้ความสนใจในเรื่องพวกนี้ วันนี้รัฐบาลยังทำงานได้ตามปกติ สภาสามารถเดินหน้าได้ แม้เสียงปริ่มน้ำ ทุกคนก็มาช่วยกันก็จบ ไม่มีปัญหา รัฐมนตรีก็มาช่วยในวันพุธและพฤหัสบดีที่สภา ถ้าทุกคนมีวินัยในตัวเอง องค์ประชุมก็ครบ สภาก็สามารถเดินหน้า ได้รัฐบาลก็ทำงานได้

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ที่สำคัญในช่วงนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กำลังเร่งปราบปราม ยาเสพติดอย่างหนัก ประสานไปทางกรมการปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ทหาร ตำรวจ และทุกหน่วยงาน ให้มุ่งมั่นและทำงานอย่างจริงจัง ตนเชื่อว่ายาเสพติดหมดไปและลดลงไป เงินที่ไหลออกไปนอกประเทศก็จะหมดไป และเงินอยู่ในประเทศเศรษฐกิจก็จะดีขึ้น ปัญหาสังคมก็จะลดลงไป ตลอดจนการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากประเทศเพื่อนบ้านอย่างจริงจัง ก็เชื่อว่าอะไรจะดีขึ้น และรัฐมนตรีใหม่ๆ ก็จะดูแลเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าจะต้องช่วยประชาชนให้ลืมตาอ้าปากได้ในท่ามกลางภาวะวิกฤตแบบนี้ ให้รัฐบาลได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง หรือมีความไม่มั่นคงทางสภา ขณะที่กฎหมายนิรโทษกรรมก็จะออกให้อยู่แล้ว ทุกฝ่ายก็เลิกราต่อกันในอดีต 20 ปี 30 ปี ที่ทะเลาะเบาะแว้ง ต่อไปก็ไม่ต้องทะเลาะ อภัยให้กัน จับมือสร้างประเทศชาติให้เกิดความเข้มแข็งและเกิดความรักความสามัคคีในบ้านเมือง