นายธนกร วังบุญคง สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีข่าวฉาววงการพระสงฆ์ ชั้นผู้ใหญ่กว่า 10 รูป ต้องทยอยลาสิกขา กระทบความเชื่อมั่นศรัทธาของพุทธศาสนิกชนอย่างหนัก ว่า กรณีนี้สร้างความกังวลและกังขาให้แก่พุทธศาสนิกชนทั้งประเทศ โดยกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่ครอบคลุม ไม่สามารถเอาผิดกรณีพระสงฆ์ปาราชิกเพราะเสพเมถุน แม้จะมีโทษชัดในพระธรรมวินัย แต่ไม่มีโทษทางกฎหมายอาญา และสีกา หรือบุคคลที่หวังผลประโยชน์จากพระ ก็ไม่ได้รับโทษทางกฎหมายแต่อย่างใด ยกเว้นมีหลักฐานเส้นทางการเงินชัดเจนเกี่ยวกับเงินวัดถึงจะเอาผิดได้
ทั้งนี้ ขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เร่งเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพื่อกำหนดโทษอาญาให้ชัดเจน เอาผิดกับทั้งพระสงฆ์ และบุคคลทั่วไป ทั้งชายและหญิง ที่จงใจทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย ต้องเอาผิดทุกฝ่าย โดยทราบว่าสาระสำคัญของ พ.ร.บ.คุ้มครองพระพุทธศาสนาฯ ที่ พศ. เตรียมเสนอจะมีบทลงโทษให้พระสงฆ์ที่ต้องอาบัติปาราชิก หรือประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัย รวมถึง หญิงหรือชาย ที่สมัครใจเสพเมถุนกับพระภิกษุหรือสามเณร โทษจำคุก 1-7 ปี ปรับ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพระอวดอุตริ มีโทษทั้งจำและปรับในอัตราโทษเท่ากับพระที่อาบัติปาราชิกด้วย
ทั้งนี้ ขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เร่งเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพื่อกำหนดโทษอาญาให้ชัดเจน เอาผิดกับทั้งพระสงฆ์ และบุคคลทั่วไป ทั้งชายและหญิง ที่จงใจทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย ต้องเอาผิดทุกฝ่าย โดยทราบว่าสาระสำคัญของ พ.ร.บ.คุ้มครองพระพุทธศาสนาฯ ที่ พศ. เตรียมเสนอจะมีบทลงโทษให้พระสงฆ์ที่ต้องอาบัติปาราชิก หรือประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัย รวมถึง หญิงหรือชาย ที่สมัครใจเสพเมถุนกับพระภิกษุหรือสามเณร โทษจำคุก 1-7 ปี ปรับ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพระอวดอุตริ มีโทษทั้งจำและปรับในอัตราโทษเท่ากับพระที่อาบัติปาราชิกด้วย