xs
xsm
sm
md
lg

กรมท่าอากาศยานพร้อมรับผู้โดยสารช่วงหยุดยาวอาสาฬหบูชา–เข้าพรรษา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า กรมท่าอากาศยานได้ดำเนินการ ตามนโยบาย "สนามบินมีชีวิต" ของนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ณ ท่าอากาศยานในสังกัดทุกแห่ง เพื่อให้ท่าอากาศยานเป็นประตูสู่จังหวัดและสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวตั้งแต่ก้าวแรกสู่ท่าอากาศยาน โดยได้มีการจัดจุดเช็กอินภายในท่าอากาศยานที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของจังหวัด เช่น ท่าอากาศยานขอนแก่น เมืองขอนแก่น เสียงแคนดอกคูน เที่ยวขอนแก่นนครใหญ่ ไดโนเสาร์สิรินธรเน่ ต้อนรับด้วยน้ำใจ อบอุ่นในไมตรี เป็นการเผยแพร่อัตลักษณ์ และสร้างความประทับใจแก่ผู้โดยสารที่มาเยือนจังหวัดขอนแก่น

ท่าอากาศยานน่านนคร จุดเช็กอิน "เรือเจ้าแม่ข่วงฟ้า" ประดับตกแต่งด้วย ซุ้มโคมน่าน (โคมมะเต้า) ภายในโถงอาคารที่พักผู้โดยสาร ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ น่านเมืองเก่ามีชีวิต สร้างสรรค์ เมืองแห่งวัฒนธรรมสู่มรดกโลก กิจกรรมการสร้างอัตลักษณ์ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองเก่าน่านและเมืองมรดกโลก

"ท่าอากาศยานพิษณุโลก" เพิ่มเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ในพื้นที่ด้วยลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบัวกระด้งยักษ์ ให้นักท่องเที่ยวได้เช็กอินถ่ายภาพเก็บความประทับใจ และยังมีแผนปรับปรุงบรรยากาศภายในท่าอากาศยานพิษณุโลกสู่ความยั่งยืนของท่าอากาศยานมีชีวิตโดยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในท่าอากาศยาน รวมถึงการใช้ Natural Sounds Effect สร้างความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น

และล่าสุด "ท่าอากาศยานนครพนม" เเสดงอัตลักษณ์ของจังหวัดนครพนม ที่มีพระธาตุพนม เเม่น้ำโขง วิวทิวทัศน์ฝั่ง สปป.ลาว เสริมดวงด้วยสายมู ที่มีพญาศรีสัตนาคราช เป็นที่ดึงดูดคนเข้ามาในจังหวัด

นอกจากนี้ ได้มีการประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ จัดให้มีการออกร้านค้าชุมชนและกิจกรรมต่างๆ หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละสัปดาห์ เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ซึ่งทุกท่าอากาศยานเน้นการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์อัตลักษณ์ วัฒนธรรมของแต่ละจังหวัด สร้างสีสัน ความประทับใจแก่ผู้มาเยือน

ในส่วนของการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้โดยสารในช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันอาสาฬหบูชา วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 และวันเข้าพรรษา วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 คาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการท่าอากาศยานในสังกัด ทั้งเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรมท่าอากาศยานได้เตรียมพร้อมในด้านการอำนวยความสะดวก การให้บริการ มาตรการความปลอดภัย และการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด

โดยได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วม ณ ท่าอากาศยานในสังกัด เพื่อบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ ทหาร หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน และฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสนามบิน จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดบริการต่าง ๆ อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน เพื่อช่วยระบายผู้โดยสารและลดความแออัด ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย และระบบอำนวยความสะดวกอย่างต่อเนื่อง เช่น เครื่องเอกซเรย์ กล้อง CCTV ระบบไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคารผู้โดยสาร บริหารจัดการการจราจรภายในสนามบินให้คล่องตัว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่สนามบิน ตลอดจนจัดเตรียมระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมต่อจากสนามบินไปยังตัวเมือง หรือแหล่งท่องเที่ยวให้มีจำนวนเพียงพอ เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางต่อได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางถึงสนามบิน อย่างน้อย 2–3 ชั่วโมงล่วงหน้า และขอให้ตรวจสอบข้อมูลเที่ยวบินกับสายการบินก่อนการเดินทาง ตลอดจนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สนามบินเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการ