นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า ท้าเพื่อไทย ใช้นโยบาย“กาสิโน”หาเสียง
การประชุมคณะรัฐมนตรีเ มื่อวันอังคาร(8 ก.ค. 2568) ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีมติให้ถอนร่างพรบ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้เหตุผลว่า หลังจากมีการปรับครม.ใหม่แล้ว ก็เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาคสังคม ต้องให้เวลาในการทำความเข้าใจกับสังคมด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่พร้อมที่จะเดินหน้าพรบ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือบ่อนกาสิโน ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากทุกภาคส่วนของสังคม และเสียงคัดค้านจากพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ทำให้ไม่มีความเป็นเอกภาพ จึงทำให้คณะรัฐมนตรีได้มีมติถอนร่างพรบ.สถานบันเทิงครบวงจรไปก่อน
ผมเคยวิเคราะห์เรื่องนี้ว่า พรบ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือบ่อนกาสิโน รัฐบาลเดินหน้าต่อไปไม่ได้ นอกจากทุกภาคส่วนคัดค้านแล้ว ยังมีพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลบางพรรคไม่เห็นด้วย ไม่สนับสนุนอีก แต่สัญญาณที่ชัดเจน คือฝ่ายอนุรักษ์นิยม ได้ส่งสัญญาณว่าไม่เอาบ่อนกาสิโน จึงเห็นจากการแสดงออก และท่าทีของนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้แสดงออกประกาศจุดยืนกลางที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร นั่นคือสัญญาณสำคัญ ที่รัฐบาลจะต้องเลื่อนออกไป หรือถอยออกไปก่อน ซึ่งความหมายก็คือ การเลื่อนก็เท่ากับเลิก ถ้าถอยก็เท่ากับถอน ซึ่งวันนี้รัฐบาลก็พยายามที่จะรักษาหน้า โดยใช้คำว่าถอนพรบ.สถานบันเทิงครบวงจรออกไปก่อน ทั้งที่รัฐบาลควรที่จะยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ไปทันที
ถ้าพรรคเพื่อไทยต้องการที่จะเดินหน้า ผลักดันการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร หรือบ่อนกาสิโนจริง ก็ควรนำเรื่องนี้ไปเป็นนโยบายหาเสียงกับพี่น้องประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะได้คำตอบระดับหนึ่ง เพราะพรรคเพื่อไทยยืนกระต่ายขาเดียวไม่ยอมทำประชามติ เมื่อไม่ยอมทำประชามติโดยตรง ก็ต้องเป็นประชามติทางอ้อม นั่นก็คือใช้เป็นนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ถ้าประชาชนเห็นด้วย และพรรคเพื่อไทยได้เสียงสนับสนุนมาเป็นอันดับหนึ่ง ได้จัดตั้งรัฐบาล ก็สามารถดันโครงการสถานบันเทิงครบวงจร หรือบ่อนกาสิโนได้ทันที
แต่ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีนโยบายหาเสียง เรื่องสถานบันเทิงครบวงจรหรือบ่อนกาสิโนเลย แต่พยายามผลักดันแบบลุกลี้ลุกลน ซึ่งทำให้สังคมสงสัย และคลางแคลงใจ ในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และวาระซ่อนเร้น
ขอสนับสนุนให้รัฐบาลถอนร่างพรบ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือบ่อนคาสิโนฉบับนี้ออกไป แนวทางที่ดีที่สุด ไม่ควรจะนำเข้ามาอีก รัฐบาลควรจะประกาศว่า ในสมัยของรัฐบาลชุดนี้ หรือสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ จะไม่มีกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรหรือบ่อนกาสิโน เข้าสู่วาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรอีก เพื่อทำให้ประชาชนได้มีความสบายใจมากยิ่งขึ้น