น.ส.พราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช กรรมการบริหารแบรนด์ชาตรามือ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดปัญหาขึ้น ว่า ได้รับผลกระทบ เพราะตลาดกัมพูชาเป็นตลาดหลักในอาเซียน แต่โดยรวมบริษัทยังเดินหน้าได้
อย่างไรก็ตาม หากเกิดการปิดด่านคงได้รับผลกระทบมาก แต่ทั้งนี้ เตรียมแผนรับมือไว้แล้ว คือสาขาใหม่ในต่างประเทศอื่นๆ โดยปี 2568 นี้ จะไปที่ สปป.ลาว เวียดนาม เม็กซิโก และมาเลเซีย ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงและสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศได้ พร้อมตั้งเป้าว่า จะมีร้านชาตรามือประจำ 14 ประเทศทั่วโลก พร้อมกับจำนวนสาขา 130 แห่ง ภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม หากเกิดการปิดด่านคงได้รับผลกระทบมาก แต่ทั้งนี้ เตรียมแผนรับมือไว้แล้ว คือสาขาใหม่ในต่างประเทศอื่นๆ โดยปี 2568 นี้ จะไปที่ สปป.ลาว เวียดนาม เม็กซิโก และมาเลเซีย ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงและสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศได้ พร้อมตั้งเป้าว่า จะมีร้านชาตรามือประจำ 14 ประเทศทั่วโลก พร้อมกับจำนวนสาขา 130 แห่ง ภายในปีนี้