วันนี้ (29 มิ.ย.) พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) นำคณะผู้บังคับบัญชาของกองทัพบก เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ปัตตานี เพื่อประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง หารือถึงแนวทางรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดย ผบ.ทบ.ได้รับฟังการบรรยายสรุปผลการปฏิบัติและรายงานสถานการณ์ในห้วงที่ผ่านมาจากหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้แก่ การรายงานการก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่แม้ในภาพรวมจะมีจำนวนการก่อเหตุลดลง แต่ยังคงมุ่งสร้างสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ทั้งการกระทำต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง, การลอบวางระเบิดหรือวางวัตถุต้องสงสัยในห้วงวันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา, การวางเพลิงในสถานที่ราชการ, การทำลายกล้องวงจรปิด และการทิ้งประกาศแผ่นปลิว รวมทั้งการพบหลักฐานความพยายาม ในการสร้างความไม่สงบนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อก่อเหตุต่อสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในหลายจุดของ จ.ภูเก็ต, จ.กระบี่ และ จ.พังงา ในห้วงปลายเดือนมิถุนายนนี้
โอกาสนี้ ผบ.ทบ.ได้ร่วมหารือพร้อมเน้นย้ำในที่ประชุม ให้ทุกส่วนเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการระวังป้องกันการก่อเหตุ ทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้งานข่าวกรองควบคู่กับงานทางยุทธวิธี เพื่อเท่าทันต่อสถานการณ์ สามารถนำมาวิเคราะห์และปรับแผนงานเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และตามที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้รายงานพบการก่อเหตุความไม่สงบนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงนั้น ขอให้เพิ่มแผนการปฏิบัติเพื่อทำลายความพยายามดังกล่าว เช่น เพิ่มความเข้มของจุดตรวจด่านตรวจ, เฝ้าระวังการขนย้ายอาวุธและวัตถุต่างๆ เข้า-ออก พื้นที่, ประสานงานกับหน่วยความมั่นคงที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเร่งสืบสวนขยายผลการจับกุมผู้ก่อเหตุ นำสู่ต้นตอของขบวนการโดยเร็ว ขณะเดียวกันหน่วยต้องดำรงความสัมพันธ์กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความไว้วางใจและเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่รัฐ แสดงถึงความพร้อมที่จะเคียงข้างและดูแลอย่างเต็มขีดความสามารถ
โอกาสนี้ ผบ.ทบ.ได้ร่วมหารือพร้อมเน้นย้ำในที่ประชุม ให้ทุกส่วนเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการระวังป้องกันการก่อเหตุ ทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้งานข่าวกรองควบคู่กับงานทางยุทธวิธี เพื่อเท่าทันต่อสถานการณ์ สามารถนำมาวิเคราะห์และปรับแผนงานเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และตามที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้รายงานพบการก่อเหตุความไม่สงบนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงนั้น ขอให้เพิ่มแผนการปฏิบัติเพื่อทำลายความพยายามดังกล่าว เช่น เพิ่มความเข้มของจุดตรวจด่านตรวจ, เฝ้าระวังการขนย้ายอาวุธและวัตถุต่างๆ เข้า-ออก พื้นที่, ประสานงานกับหน่วยความมั่นคงที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเร่งสืบสวนขยายผลการจับกุมผู้ก่อเหตุ นำสู่ต้นตอของขบวนการโดยเร็ว ขณะเดียวกันหน่วยต้องดำรงความสัมพันธ์กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความไว้วางใจและเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่รัฐ แสดงถึงความพร้อมที่จะเคียงข้างและดูแลอย่างเต็มขีดความสามารถ