วันนี้ (28 มิ.ย.) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ตามที่กรมเจ้าท่า กรมชลประทาน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย หน่วยทหารช่าง กองทัพบก กองทัพภาคที่ 3 และจังหวัดเชียงราย กำลังดำเนินการขุดลอกตะกอนดินท้องน้ำแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก เพื่อเตรียมความพร้อมรับฤดูน้ำหลาก ป้องกันน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม ซึ่งในระหว่างการดำเนินการได้เกิดข้อกังวลของนักวิชาการและประชาชน กรณีการแพร่กระจายของสารหนูจากการขุดลอกตะกอนดินขึ้นมากองบนฝั่ง คพ. จึงจัดทำคำแนะนำในการจัดการตะกอนดินดังกล่าว เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน
ทั้งนี้ จัดทำคำแนะนำในการจัดการตะกอนจากการขุดลอก พิจารณาจากปริมาณสารหนูปนเปื้อนที่ตรวจพบในตะกอนดิน แบ่งเป็น 4 ระดับ การจัดการ 4 แนวทาง ดังนี้ 1.ปริมาณสารหนูปนเปื้อนไม่เกิน 6 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (มลก./กก.) สามารถนำไปใช้ได้ทุกวัตถุประสงค์โดยไม่มีเงื่อนไข 2.ปริมาณสารหนูปนเปื้อน 7-25 มลก./กก. นำไปใช้ได้ทุกวัตถุประสงค์ แต่ควรหลีกเลี่ยงการนำไปถมที่เพื่อสร้างที่อยู่อาศัย เว้นแต่มีการเททับด้วยซีเมนต์หรือวัสดุอื่นที่มีความหนาเพียงพอในการป้องกันการสัมผัสกับผู้อยู่อาศัยโดยตรง กรณีกองไว้ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ควรป้องกันไม่ให้ถูกน้ำชะลงแม่น้ำอีก
3.ปริมาณสารหนูปนเปื้อน 26-500 มลก./กก. ไม่เหมาะกับการนำไปใช้ประโยชน์ เว้นแต่มีการเททับด้วยซีเมนต์หรือวัสดุอื่นที่มีความหนาเพียงพอในการป้องกันการสัมผัสกับผู้อยู่อาศัยโดยตรง การนำไปฝังหรือเทกองในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ควรปรับค่า pH ของดินให้อยู่ในช่วงเป็นกลาง (pH 6.0-7.0) โดยการใช้ ปูนขาว เถ้าชีวะมวล หรือวัสดุปูนอื่นๆ เพื่อช่วยตรึง สารหนูในดิน และควรปิดทับด้านบนด้วยดินสะอาดและปลูกพืชเพื่อป้องกันการกัดเซาะของหน้าดิน หรือปูทับด้วยแผ่นพลาสติก HDPE (ชั้นเดียว) และ
4.ปริมาณสารหนูปนเปื้อน เกิน 500 มลก./กก. (จัดเป็นของเสียอันตราย) ไม่เหมาะสมสำหรับใช้ประโยชน์ การนำไปฝังหรือเทกองในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ควรปรับค่า pH ของดินให้อยู่ในช่วงเป็นกลาง (pH 6.0-7.0) โดยการใช้ ปูนขาว เถ้าชีวมวล หรือวัสดุปูนอื่นๆ เพื่อช่วยตรึงสารหนูในดิน และควรปิดทับด้านบนด้วยแผ่นพลาสติก HDPE 2 ชั้น
ทั้งนี้ จัดทำคำแนะนำในการจัดการตะกอนจากการขุดลอก พิจารณาจากปริมาณสารหนูปนเปื้อนที่ตรวจพบในตะกอนดิน แบ่งเป็น 4 ระดับ การจัดการ 4 แนวทาง ดังนี้ 1.ปริมาณสารหนูปนเปื้อนไม่เกิน 6 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (มลก./กก.) สามารถนำไปใช้ได้ทุกวัตถุประสงค์โดยไม่มีเงื่อนไข 2.ปริมาณสารหนูปนเปื้อน 7-25 มลก./กก. นำไปใช้ได้ทุกวัตถุประสงค์ แต่ควรหลีกเลี่ยงการนำไปถมที่เพื่อสร้างที่อยู่อาศัย เว้นแต่มีการเททับด้วยซีเมนต์หรือวัสดุอื่นที่มีความหนาเพียงพอในการป้องกันการสัมผัสกับผู้อยู่อาศัยโดยตรง กรณีกองไว้ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ควรป้องกันไม่ให้ถูกน้ำชะลงแม่น้ำอีก
3.ปริมาณสารหนูปนเปื้อน 26-500 มลก./กก. ไม่เหมาะกับการนำไปใช้ประโยชน์ เว้นแต่มีการเททับด้วยซีเมนต์หรือวัสดุอื่นที่มีความหนาเพียงพอในการป้องกันการสัมผัสกับผู้อยู่อาศัยโดยตรง การนำไปฝังหรือเทกองในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ควรปรับค่า pH ของดินให้อยู่ในช่วงเป็นกลาง (pH 6.0-7.0) โดยการใช้ ปูนขาว เถ้าชีวะมวล หรือวัสดุปูนอื่นๆ เพื่อช่วยตรึง สารหนูในดิน และควรปิดทับด้านบนด้วยดินสะอาดและปลูกพืชเพื่อป้องกันการกัดเซาะของหน้าดิน หรือปูทับด้วยแผ่นพลาสติก HDPE (ชั้นเดียว) และ
4.ปริมาณสารหนูปนเปื้อน เกิน 500 มลก./กก. (จัดเป็นของเสียอันตราย) ไม่เหมาะสมสำหรับใช้ประโยชน์ การนำไปฝังหรือเทกองในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ควรปรับค่า pH ของดินให้อยู่ในช่วงเป็นกลาง (pH 6.0-7.0) โดยการใช้ ปูนขาว เถ้าชีวมวล หรือวัสดุปูนอื่นๆ เพื่อช่วยตรึงสารหนูในดิน และควรปิดทับด้านบนด้วยแผ่นพลาสติก HDPE 2 ชั้น