นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า (ร่าง) พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกม พ.ศ. … หรือ พ.ร.บ.เกม ขณะนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมอุตสาหกรรมเกม เพื่อใช้ในการสนับสนุนผู้ประกอบการเกมออนไลน์ โดยมีแนวทางเดียวกับกองทุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกองทุนภาพยนตร์ ซึ่งมีความคล่องตัวด้านการใช้งบประมาณ
กองทุนดังกล่าวนั้น จะมีแหล่งรายได้จาก 3 ส่วน ได้แก่ เงินงบประมาณแผ่นดิน รายได้จากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส. หรือกองทุนยูโซ่) และรายได้จากภาษีดิจิทัล ซึ่งยังอยู่ระหว่างการออกกฎหมายรองรับ โดยกรมบัญชีกลางเสนอให้ตัดรายได้จากภาษีออกไปก่อน เพราะยังไม่สามารถใช้ได้ในทางปฏิบัติ นอกจากนี้ กรมบัญชีกลาง ยังแนะนำว่า หากจะใช้เงินจากหน่วยงานอย่าง กสทช. หรือกรมสรรพากร จะต้องมีการหารือและตกลงให้ชัดเจนก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อป้องกันการคัดค้านในขั้นตอนภายหลัง ซึ่งอาจทำให้กระบวนการของร่าง พ.ร.บ.สะดุด
ทั้งนี้ ทางดีป้าส่งหนังสือถึงสำนักงาน กสทช. เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อขอให้พิจารณาและตอบกลับโดยเร็ว หาก กสทช.ไม่สามารถสนับสนุนงบประมาณได้ อาจจำเป็นต้องตัดประเด็นเรื่องกองทุนออกจากร่าง พ.ร.บ. และใช้วิธีกลไกงบประมาณรายปีตามปกติแทน แม้จะมีข้อจำกัดด้านความคล่องตัวและความรวดเร็วในการส่งเสริมอุตสาหกรรม สำหรับร่าง พ.ร.บ.เกมฉบับนี้ แบ่งออกเป็น 3 หมวดหลัก ได้แก่ การขึ้นทะเบียนเกม การกำกับดูแล และการส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยหมวดส่งเสริมจะได้รับผลกระทบโดยตรงหากไม่มีการจัดตั้งกองทุน เพราะจะต้องพึ่งพางบประมาณปกติ ซึ่งอาจไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมดิจิทัล
กองทุนดังกล่าวนั้น จะมีแหล่งรายได้จาก 3 ส่วน ได้แก่ เงินงบประมาณแผ่นดิน รายได้จากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส. หรือกองทุนยูโซ่) และรายได้จากภาษีดิจิทัล ซึ่งยังอยู่ระหว่างการออกกฎหมายรองรับ โดยกรมบัญชีกลางเสนอให้ตัดรายได้จากภาษีออกไปก่อน เพราะยังไม่สามารถใช้ได้ในทางปฏิบัติ นอกจากนี้ กรมบัญชีกลาง ยังแนะนำว่า หากจะใช้เงินจากหน่วยงานอย่าง กสทช. หรือกรมสรรพากร จะต้องมีการหารือและตกลงให้ชัดเจนก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อป้องกันการคัดค้านในขั้นตอนภายหลัง ซึ่งอาจทำให้กระบวนการของร่าง พ.ร.บ.สะดุด
ทั้งนี้ ทางดีป้าส่งหนังสือถึงสำนักงาน กสทช. เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อขอให้พิจารณาและตอบกลับโดยเร็ว หาก กสทช.ไม่สามารถสนับสนุนงบประมาณได้ อาจจำเป็นต้องตัดประเด็นเรื่องกองทุนออกจากร่าง พ.ร.บ. และใช้วิธีกลไกงบประมาณรายปีตามปกติแทน แม้จะมีข้อจำกัดด้านความคล่องตัวและความรวดเร็วในการส่งเสริมอุตสาหกรรม สำหรับร่าง พ.ร.บ.เกมฉบับนี้ แบ่งออกเป็น 3 หมวดหลัก ได้แก่ การขึ้นทะเบียนเกม การกำกับดูแล และการส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยหมวดส่งเสริมจะได้รับผลกระทบโดยตรงหากไม่มีการจัดตั้งกองทุน เพราะจะต้องพึ่งพางบประมาณปกติ ซึ่งอาจไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมดิจิทัล