นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เร่งดำเนินการกำหนดให้ตู้น้ำดื่มในโรงเรียนเป็นสินค้าควบคุม เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่นักเรียนในโรงเรียน โดยในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 มาตรฐานดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย โดยผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่าย ต้องผลิต นำเข้า และจำหน่าย เฉพาะสินค้าที่มีมาตรฐาน มอก. เท่านั้น มิฉะนั้นจะมีโทษตามกฎหมาย หลังจากที่ สมอ. ประกาศเป็นสินค้าควบคุมแล้ว จะช่วยให้มั่นใจได้ว่า ตู้น้ำดื่มทุกตู้ที่ใช้ในโรงเรียนหรือในที่สาธารณะต่างๆ จะมีความปลอดภัยในการใช้งาน
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรฐานตู้น้ำดื่มเดิมเป็นมาตรฐานทั่วไป ต่อมาได้มีการแก้ไขปรับปรุงให้เป็นมาตรฐานบังคับตู้น้ำร้อนน้ำเย็นบริโภคและตู้น้ำเย็นบริโภค เฉพาะด้านความปลอดภัย มอก. 2461-2565 โดยอ้างอิงตามมาตรฐาน IEC ซึ่งเป็นมาตรฐานระหว่างประเทศที่สากลให้การยอมรับ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย
มาตรฐานนี้จะครอบคลุมตู้น้ำดื่มที่มีแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน 250 โวลต์ แต่ไม่ครอบคลุมตู้น้ำดื่มที่ใช้กับยานยนต์ เรือ หรือเครื่องบิน และมีข้อกำหนดที่สำคัญด้านความปลอดภัย เช่น มีการป้องกันผู้ใช้งานสัมผัสกับส่วนที่มีไฟฟ้า มีระบบการป้องกันความชื้น เช่น หยดน้ำ หรือละอองฝน มีการทดสอบไฟรั่ว การติดตั้ง สายดิน การไม่แผ่รังสีที่เป็นอันตราย รวมทั้งบนฉลากต้องระบุชนิด การใช้งาน ประเภท แรงดันไฟฟ้า กำลังไฟฟ้า และระบุ แบบ รุ่น ที่ชัดเจน และคำเตือน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน เป็นต้น
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 สมอ.ได้จัดการสัมมนามีผู้เข้าร่วมการสัมมนา จำนวนกว่า 200 ราย เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการในการยื่นขอใบอนุญาตให้แก่ผู้ทำ ผู้นำเข้า และผู้จำหน่ายสินค้าที่จะประกาศเป็นสินค้าควบคุม รวม 4 รายการ ได้แก่
1) ตู้น้ำร้อนน้ำเย็นบริโภคและตู้น้ำเย็นบริโภค เฉพาะด้านความปลอดภัย
2) เครื่องทอดน้ำมันท่วมปริมาณน้ำมันสูงสุด ไม่เกิน 5 ลิตร และกระทะทอด
3) เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับการดูแลผม ขน หรือผิว ที่จะมีผลบังคับใช้ 1 ตุลาคม 2568
4) เตาอบไมโครเวฟและเตาอบไมโครเวฟร่วมสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัย มีผลบังคับใช้ 30 ธันวาคม 2568