นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันในยุคสมัยที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญต่อทั้งชีวิตประจำวันและภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในหลากหลายรูปแบบ แต่ขณะเดียวกันก็ได้สร้างความท้าทายใหม่ๆ ตามมาอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ หรือ Cyber Crime ที่บ่อยครั้งคนไทยมักตกเป็นเหยื่อด้วยวิธีการของกลุ่มมิจฉาชีพ ได้แก่ การหลอกลวงผ่านอีเมล (Email scam) การหลอกลวงขายสินค้า (Sales scam) การหลอกรักออนไลน์ (Romance Scam) การหลอกรักลวงลงทุน (Hybrid Scam) การหลอกลวงด้วยการโทรศัพท์โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Vishing Phishing) การหลอกให้ลงทุนแชร์ลูกโซ่ (Ponzi scheme) อีกทั้ง ด้วยการเข้ามาของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ (AI) ทำให้ในปัจจุบันนี้พบว่ากลุ่มมิจฉาชีพได้พัฒนากลโกงรูปแบบใหม่ ด้วยการใช้ AI ปลอมเสียงเป็นบุคคลใกล้ตัว อาทิ ลูกหลาน ญาติ หรือหัวหน้างาน ด้วยการโทรศัพท์หาเหยื่อผ่านเบอร์แปลก พร้อมอ้างสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อหลอกให้โอนเงิน
นายอนุกูล กล่าวว่า จากพฤติกรรมดังกล่าวของกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ได้มีการใช้ AI ในการหลอกลวงเหยื่อมักมีการสร้างสถานการณ์ เช่น อุบัติเหตุ ติดคดี หรือการเจ็บป่วย โดยใช้เสียงเลียนแบบคนรู้จักมาขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยมักพูดว่า "ไม่มีเวลาชี้แจง ขอให้รีบโอน" หรือ "อย่าบอกใคร เชื่อใจได้" เพื่อเร่งการตัดสินใจ อีกทั้งด้วยการใช้ AI เข้ามามีส่วนช่วยในการปลอมแปลงเสียงเป็นบุคคลใกล้ชิดทำให้บางครั้งยากที่จะสามารถแยกแยะได้ทันในเวลาดังกล่าว
ดังนั้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้เท่าทันต่อกลโกงรูปแบบใหม่ของกลุ่มมิจฉาชีพ รัฐบาลขอแนะวิธีการป้องกันดังต่อนี้
1. ขออย่าโอนเงินโดยไม่ได้มีการตรวจสอบ
2. โทรกลับหาบุคคลที่ถูกอ้างชื่อ โดยใช้เบอร์ที่เคยติดต่อ
3. สังเกตความผิดปกติ เช่น คำพูดเร่งรัด น้ำเสียงที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ
4. ในกรณีที่มีการโอน ควรตรวจสอบชื่อบัญชีผู้รับโอนว่าเป็นของคนรู้จักจริงหรือไม่
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอาชญากรรมต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ ควรมีสติและไม่ควรเชื่อใครง่ายๆ อีกทั้งก่อนทำการโอนเงินหรือทำธุรกรรมต่างๆ ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจโอนเงินเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
ทั้งนี้ หากคาดว่าตกเป็นเหยื่อหรือพบเห็นการกระทำความผิดต้องการแจ้งความอาชญากรรมออนไลน์ สามารถทำได้โดยเข้าเว็บไซต์ แจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือ ติดต่อสายด่วน 1441 ของตำรวจไซเบอร์ ตลอด 24 ชั่วโมง