การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานผลกระทบจากด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านผลกระทบด้านการท่องเที่ยว แบ่งเป็นตลาดในประเทศ จากการสอบถามสำนักงาน ททท.ในประเทศ พบว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวภาพรวมไม่ได้รับผลกระทบ แต่ยังติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนตลาดต่างประเทศ ปี 2567 มีนักท่องเที่ยวกัมพูชาเข้าไทย จำนวน 553,060 คน ลดลง 5% เทียบจากปี 2566 ที่มีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยต่อวัน อยู่ที่ 1,500 คนต่อวัน ส่วนปี 2568 ในช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวสะสม 197,658 คน ลดลง 14% จากปี 2567 ช่วงเดียวกันอยู่ที่ 228,982 คน โดยในช่วงที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยรายวัน วันละ 1,200 คนต่อวัน และนับตั้งแต่หลังจากไทยประกาศปิดด่านต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยรายวันลดลง 43% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนการปิดด่าน
แหล่งท่องเที่ยวและโครงการที่ได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น ตลาดในประเทศ อาทิ จ.อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบเล็กน้อยในบางแหล่งท่องเที่ยวคือ โบราณสถานภูปราสาท อ.น้ำยืน เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของป่าบนเทือกเขาพนมดงรักรอยต่อชายแดนไทย-กัมพูชา ใกล้ด่านช่องอานม้า อ.น้ำยืน ส่งผลให้นักท่องเที่ยววิตกกังวลในความปลอดภัยและชะลอการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้สถานการณ์เริ่มกลับมาเนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากจังหวัดใกล้เคียงที่คุ้นเคยกับสถานการณ์ชายแดน ส่วนจ.สระแก้ว โรงแรมที่พักในอ.อรัญประเทศได้รับผลกระทบจากอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OR) ลดลงเล็กน้อย
เนื่องจากชาวไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางผ่านด่านไปยังกัมพูชา (ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่นักท่องเที่ยว) โดยใช้จุดผ่านแดนถาวร บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ไม่สามารถเดินทางออกได้ และนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอินโดนีเซียที่จะไปท่องเที่ยวกัมพูชาที่โดยปกติจะพักค้าง 1 คืนก่อนออกเดินทางข้ามชายแดนชะลอการเดินทางเข้าพื้นที่
ตลาดต่างประเทศ สำนักงาน ททท.โฮจิมินท์ มีแผนจะดำเนินกิจกรรมการตลาดร่วมกับพันธมิตรในระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม อาทิ สถานทูตไทย และ สายการบิน อย่างไรก็ตาม พันธมิตรขอเลื่อนดำเนินการกิจกรรมชั่วคราว
สำหรับมาตรการความปลอดภัย จากการสอบถามจากสำนักงาน ททท. ในพื้นที่ซึ่งดูและพื้นที่อุบลราชธานี สุรินทร์ สระแก้ว และตราด พบว่า ไม่มีรายงานว่ามีมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากปัจจุบันมีมาตรการคุมเข้มสำหรับผู้ที่ต้องการผ่านแดนอยู่แล้ว แม้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวไทยที่เดินทางไปยังอุบลราชธานี อาจมีความกังวลอยู่บ้าง เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับบริเวณที่มีการเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ ความรู้สึกดังกล่าวได้ผ่อนคลายลง ส่วนจังหวัดอื่น อาทิ สุรินทร์ นักท่องเที่ยวไม่ได้มีความกังวล เนื่องจากเคยชินกับสถานการณ์ดังกล่าวพอสมควรแล้ว
ในส่วนของการเฝ้าระวัง ททท. ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ทุกสัปดาห์ รวมถึงหากมีประเด็นใหม่เกิดขึ้น โดยติดตามจากทั้งสำนักงาน ททท. ในพื้นที่ภาคอีสานและสำนักงานโฮจิมินห์ รวมทั้งติดตามและเฝ้าระวังข่าวสารจากช่องทางอื่นๆ ที่ขยายผลจากสถานการณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศไทยและความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยที่อาจจะส่งผลต่อการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวในอนาคต