นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงสถานการณ์ระหว่างไทยและกัมพูชาอย่างเป็นทางการใน 4 มาตรการ ที่ทางการไทย โดยมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. มอบให้กองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กองกำลังบูรพา และกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชานั้น ว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนดังกล่าวยังเป็นไปตามปกติ
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทย ย้ำว่า มาตรการดังกล่าว ไม่ใช่การปิดด่านทั้งหมด แต่ได้กำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับ ขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การกำหนดมาตรการดังล่าว เพื่อความปลอดภัยของประชาชน มาตรการดังกล่าว ไม่ใช่การปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด แต่จะพิจารณาดูแลความปลอดภัย และตามลักษณะเฉพาะ และเชื่อว่า การใช้เวทีประชุมเจรจา JBC ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ จะเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาลดระดับความตึงเครียดตามแนวชายแดน และกลับเข้าสู่การเจรจา
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทย ย้ำว่า มาตรการดังกล่าว ไม่ใช่การปิดด่านทั้งหมด แต่ได้กำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับ ขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การกำหนดมาตรการดังล่าว เพื่อความปลอดภัยของประชาชน มาตรการดังกล่าว ไม่ใช่การปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด แต่จะพิจารณาดูแลความปลอดภัย และตามลักษณะเฉพาะ และเชื่อว่า การใช้เวทีประชุมเจรจา JBC ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ จะเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาลดระดับความตึงเครียดตามแนวชายแดน และกลับเข้าสู่การเจรจา