จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้นัดประชุมด่วนที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช. และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เวลาประชุมเกือบ 2 ชั่วโมง เพื่อติดตามสถานการณ์และพิจารณามาตรการตอบโต้นั้น
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้หารือถึงมาตรการต่าง ๆ และการเตรียมพร้อมรับมือ หลังจาก นายภูมิธรรม และกองทัพได้พูดคุยกับฝั่งกัมพูชา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตอนนี้ยังโอเค ทุกหน่วยทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาล กองทัพ ได้ปรึกษากันตลอด ทำงานสนับสนุนกันดี โดยทำความเข้าใจและคุยเนื้องานทั้งหมดว่า หากเกิดอะไรขึ้นหน้างาน กองทัพสามารถตัดสินใจได้ทันที
ส่วนการเจรจานั้นอาจไม่ได้ลงในรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งวันนี้เกิดความเข้าใจ และยังไม่มีความรุนแรงที่ขยายเพิ่มขึ้น โดยกองทัพได้จำกัดกรอบความรุนแรงไว้ ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลสนับสนุน ในรายละเอียดของการพูดคุยต้องเคารพทั้ง 2 ฝ่ายว่า จะเปิดเผยได้มากน้อยแค่ไหน เพราะอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา ซึ่งกองทัพยืนยันแล้วว่าได้เตรียมพร้อมทุกรูปแบบต่อทุกสถานการณ์
ทั้งนี้ กองทัพทราบอยู่แล้วว่า เหตุการณ์หน้างานเป็นอย่างไร ถึงเวลาต้องปะทะหรือยัง การตัดสินใจของกองทัพจะมอบให้หน้างานเป็นคนดูแล ต้องปะทะหรือไม่ ต้องพิจารณาความเสียหายมากกว่าแรงเชียร์ จึงต้องใช้สันติวิธีให้มากที่สุด
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้หารือถึงมาตรการต่าง ๆ และการเตรียมพร้อมรับมือ หลังจาก นายภูมิธรรม และกองทัพได้พูดคุยกับฝั่งกัมพูชา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตอนนี้ยังโอเค ทุกหน่วยทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาล กองทัพ ได้ปรึกษากันตลอด ทำงานสนับสนุนกันดี โดยทำความเข้าใจและคุยเนื้องานทั้งหมดว่า หากเกิดอะไรขึ้นหน้างาน กองทัพสามารถตัดสินใจได้ทันที
ส่วนการเจรจานั้นอาจไม่ได้ลงในรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งวันนี้เกิดความเข้าใจ และยังไม่มีความรุนแรงที่ขยายเพิ่มขึ้น โดยกองทัพได้จำกัดกรอบความรุนแรงไว้ ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลสนับสนุน ในรายละเอียดของการพูดคุยต้องเคารพทั้ง 2 ฝ่ายว่า จะเปิดเผยได้มากน้อยแค่ไหน เพราะอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา ซึ่งกองทัพยืนยันแล้วว่าได้เตรียมพร้อมทุกรูปแบบต่อทุกสถานการณ์
ทั้งนี้ กองทัพทราบอยู่แล้วว่า เหตุการณ์หน้างานเป็นอย่างไร ถึงเวลาต้องปะทะหรือยัง การตัดสินใจของกองทัพจะมอบให้หน้างานเป็นคนดูแล ต้องปะทะหรือไม่ ต้องพิจารณาความเสียหายมากกว่าแรงเชียร์ จึงต้องใช้สันติวิธีให้มากที่สุด