จากกรณีที่มีข่าวการเตรียมการซ้อมรบของทหารเรือกัมพูชาร่วมกับกองเรือของจีน ในระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายน 2568 ที่บริเวณใต้อำเภอเกาะกูด และจะใช้กระสุนจริงนั้น
นายเดชาธร จันทร์อบ นายก อบต.เกาะกูด จ.ตราด และชาวเกาะกูดโดยกำเนิด ให้ความเห็นว่า ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะกัมพูชามีการซ้อมรบแบบนี้อยู่ทุกปีอยู่แล้ว และจะซ้อมในบริเวณทะเลใต้เกาะกูด แต่ปีนี้อาจจะดูแปลกหน่อย และมีการปล่อยข่าวออกมาล่วงหน้าว่าจะมีการซ้อมด้วยกระสุนจริงและมีกองทัพ ซึ่งกัมพูชาก็ซ้อมรบเป็นปกติทุกปีเช่นกัน ซึ่งชาวเกาะกูดก็รับรู้แต่ส่วนใหญ่เวลาซ้อมมักจะไม่มีเสียงการซ้อมรบใดๆ จึงไม่ได้รู้สึกตื่นกลัวใดๆกับสถานการณ์ที่มีการสู้รบ อีกทั้งพื้นที่การซ้อมรบก็อยู่ไกล ซึ่งมองด้วยสายตาไม่ค่อยเห็นด้วย
ส่วนการซ้อมครั้งนี้ไม่น่ามีอะไรเช่นกัน แต่ครั้งนี้อาจจะมีการเฝ้าระวังและติดตามจากหน่วยความมั่นคงของทหารเรือ และหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด(นปก.เกาะกูด)ที่เป็นทหารเรืออยู่เช่นกัน เพื่อติดตามการซ้อมรบครั้งนี้ และหากมีกระสุนมาตกในพื้นที่ใกล้เกาะกูดในพื้นที่อาณาเขตประเทศไทยอาจจะเกิดความขัดแย้งขึ้นได้
นายเดชาธร จันทร์อบ นายก อบต.เกาะกูด จ.ตราด และชาวเกาะกูดโดยกำเนิด ให้ความเห็นว่า ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะกัมพูชามีการซ้อมรบแบบนี้อยู่ทุกปีอยู่แล้ว และจะซ้อมในบริเวณทะเลใต้เกาะกูด แต่ปีนี้อาจจะดูแปลกหน่อย และมีการปล่อยข่าวออกมาล่วงหน้าว่าจะมีการซ้อมด้วยกระสุนจริงและมีกองทัพ ซึ่งกัมพูชาก็ซ้อมรบเป็นปกติทุกปีเช่นกัน ซึ่งชาวเกาะกูดก็รับรู้แต่ส่วนใหญ่เวลาซ้อมมักจะไม่มีเสียงการซ้อมรบใดๆ จึงไม่ได้รู้สึกตื่นกลัวใดๆกับสถานการณ์ที่มีการสู้รบ อีกทั้งพื้นที่การซ้อมรบก็อยู่ไกล ซึ่งมองด้วยสายตาไม่ค่อยเห็นด้วย
ส่วนการซ้อมครั้งนี้ไม่น่ามีอะไรเช่นกัน แต่ครั้งนี้อาจจะมีการเฝ้าระวังและติดตามจากหน่วยความมั่นคงของทหารเรือ และหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด(นปก.เกาะกูด)ที่เป็นทหารเรืออยู่เช่นกัน เพื่อติดตามการซ้อมรบครั้งนี้ และหากมีกระสุนมาตกในพื้นที่ใกล้เกาะกูดในพื้นที่อาณาเขตประเทศไทยอาจจะเกิดความขัดแย้งขึ้นได้