xs
xsm
sm
md
lg

อุทยานฯ หมู่เกาะสุรินทร์ ประชุมจัดทำแผนกู้เรือขนส่งเมียนมาเกยตื้นแนวปะการัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


​ นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ รายงานสถานการณ์ล่าสุดเหตุเรือขนส่งสินค้าสัญชาติเมียนมา "MV.AYAR LINN" เกยตื้นบนแนวปะการังในอ่าวจาก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา

จากการสำรวจเบื้องต้นพบแนวปะการังได้รับความเสียหายตั้งแต่จุดที่เรือชนจนถึงจุดเกยตื้นรวม 75 เมตร โดยพื้นที่เสียหายหนักสุดอยู่ในช่วง 45-75 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่เรือติดค้างอยู่ ปะการังใต้ท้องเรือแตกหักและถูกทับเกือบทั้งหมด นอกจากความเสียหายต่อแนวปะการังแล้ว ยังมีความกังวลเรื่องการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงจากเรือลงสู่ทะเล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลในวงกว้าง

การปฏิบัติภารกิจกู้ซากเรือยังไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากเป็นช่วงฤดูมรสุม มีกระแสคลื่นและลมแรง ทำให้เสี่ยงต่อการออกปฏิบัติงาน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จึงจัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือแนวทางการจัดการกรณีดังกล่าว ประกอบด้วย ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่ 2 จังหวัดภูเก็ต, ผศ.ดร.ทนงศักดิ์ จันทร์เมธากุล อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต, เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคุระบุรี, เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจรน้ำ, เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่า สาขาพังงา จากการร่วมหารือในประเด็นต่างๆ ได้ข้อสรุปแนวทางการแผนการจัดการ 5 มาตรการเร่งด่วน ดังนี้

1. การป้องกันการรั่วไหลของน้ำมัน : เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดำน้ำ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ดำเนินการสำรวจสภาพเรือทั้งภายนอกและภายในตัวเรืออย่างละเอียด พร้อมทั้งสำรวจตำแหน่งถังน้ำมันเชื้อเพลิงของเรือ เพื่อปิดวาล์วท่อรับและท่อส่งน้ำมันภายในตัวเรือ ป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิง

2. เตรียมความพร้อมควบคุมน้ำมันรั่ว : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ประสานขอสนับสนุนทุ่นกักน้ำมัน (Oil Boom) เพื่อควบคุมปริมาณน้ำมันที่ลอยอยู่บนผิวน้ำไม่ให้แยกออกจากกัน และไม่ไหลไปตามกระแสน้ำ หากเกิดการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิง โดยขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานเจ้าท่า จังหวัดภูเก็ต, ศรชล.ภาค 3, ภาคีเครือข่ายภาคเอกชน

3. เตรียมทีมฉุกเฉิน : ประสานขอสนับสนุน "เรือหลวงปันหยี" เจ้าหน้าที่ พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์จากฐานทัพเรือพังงา ผ่านศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 (ศรชล.ภาค 3)​ สำหรับกรณีเกิดการรั่วไหลในปริมาณมาก

4. ดำเนินคดีตามกฎหมาย : ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคุระบุรี ดำเนินการสืบสวนสอบสวนผู้ต้องหาอย่างเข้มข้น ฐานความผิดตามที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อหาพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งตรวจสอบเอกสารเรือและการเข้าออกประเทศ
ในส่วนของประประเมินมูลค่าความเสียหายต่อทรัพยากร อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ร่วมมือกับกรมทรัพยากรชายฝั่ง และศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต ทำการเก็บข้อมูลความเสียหายประกอบการร้องทุกข์กล่าวโทษ แก่เจ้าของเรือลำดังกล่าว

5. แนวทางฟื้นฟูทรัพยากรใต้น้ำ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่ 2 จังหวัดภูเก็ต นักวิชาการทางทะเล และกลุ่มภาคีเครือข่ายนักดำน้ำ ร่วมกันสำรวจสภาพความเสียหายของทรัพยากรใต้น้ำอย่างละเอียด พร้อมเก็บขยะที่ปลิวจากเรือ (กระดาษลัง เศษผ้า ยางรถบรรทุก สายยาง) และดำเนินการประกาศปิดพื้นที่บริเวณดังกล่าว เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติได้ฟื้นฟู

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ขอความร่วมมือจากประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกท่าน โปรดหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้บริเวณที่เกิดเหตุโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยของทุกท่าน และเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติภารกิจกอบกู้วิกฤตครั้งนี้ได้อย่างเต็มที่