ความคืบหน้ากรณีพบผู้ป่วยยืนยันโรคแอนแทรกซ์รายแรกที่ จ.สระแก้ว เป็นชาย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้างตัดไม้ ภูมิลำเนาอยู่ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว ต่อมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จ.ชลบุรี ด้วยอาการตุ่มแผลบริเวณศีรษะและบริเวณร่างกาย ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเสี่ยง คือ ดื่มสุราเป็นประจำ ชอบบริโภคก้อย ซอยจุ๊ เนื้อดิบเป็นประจำ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อโรคแอนแทรกซ์ ภายหลังทีมสอบสวนโรคจากกลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองสระแก้ว โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ จะลงสอบสวนโรคในพื้นที่หมู่ที่ 8 บ้านคลองผักขม ต.ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว
นายแพทย์ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ทีมสอบสวนโรคแอนแทรกซ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งประชุมร่วมกันที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ช่วงเวลา 09.00-11.00 น. หลังจากนั้นในช่วงบ่ายแบ่งทีม เป็น 3 ทีม โดยทีมแรก จะลงพื้นที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เพื่อค้นผู้ป่วยเชิงรุกจากเวชระเบียนเพื่อติดตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาก่อนหน้านี้ และมีอาการใกล้เคียงกัน ส่วนทีมที่ 2 จะลงพื้นที่บ้านผู้ป่วยและเข้าทำลายเชื้ออีกรอบ รวมทั้งสำรวจบ้านเพิ่มเติม เพื่อตรวจหาเนื้อต้องสงสัย ส่วนทีมที่ 3 จะลงพื้นที่สวนป่ายูคาลิปตัส จุดที่ควายถูกยิงตาย ก่อนนำไปชำแหละขายและกิน โดยจะเก็บตัวอย่างดิน น้ำ สภาพแวดล้อมไปตรวจ รวมทั้งสวนยูคาฯ ที่ผู้ติดเชื้อไปตัดไม้และคอกวัวข้างสวนด้วย
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สอบสวนโรคที่ผ่านมา แบ่งกลุ่มเสี่ยงออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มแรก ยังไม่พบผู้ป่วยสงสัยหรือประวัติสัมผัสโรคเข้าข่าย 2.กลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัส มีผู้ชำแหละ 7 ราย ผู้รับประทานเนื้อดิบ 30 ราย และผู้สัมผัสร่วมบ้าน 4 ราย รวม 41 ราย และ 3. กลุ่มผู้ติดเชื้อโรคแอนแทรกซ์ 1 ราย วัย 53 ปี ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พัทยาปัทมคุณ จ.ชลบุรี
นายแพทย์ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ทีมสอบสวนโรคแอนแทรกซ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งประชุมร่วมกันที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ช่วงเวลา 09.00-11.00 น. หลังจากนั้นในช่วงบ่ายแบ่งทีม เป็น 3 ทีม โดยทีมแรก จะลงพื้นที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เพื่อค้นผู้ป่วยเชิงรุกจากเวชระเบียนเพื่อติดตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาก่อนหน้านี้ และมีอาการใกล้เคียงกัน ส่วนทีมที่ 2 จะลงพื้นที่บ้านผู้ป่วยและเข้าทำลายเชื้ออีกรอบ รวมทั้งสำรวจบ้านเพิ่มเติม เพื่อตรวจหาเนื้อต้องสงสัย ส่วนทีมที่ 3 จะลงพื้นที่สวนป่ายูคาลิปตัส จุดที่ควายถูกยิงตาย ก่อนนำไปชำแหละขายและกิน โดยจะเก็บตัวอย่างดิน น้ำ สภาพแวดล้อมไปตรวจ รวมทั้งสวนยูคาฯ ที่ผู้ติดเชื้อไปตัดไม้และคอกวัวข้างสวนด้วย
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สอบสวนโรคที่ผ่านมา แบ่งกลุ่มเสี่ยงออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มแรก ยังไม่พบผู้ป่วยสงสัยหรือประวัติสัมผัสโรคเข้าข่าย 2.กลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัส มีผู้ชำแหละ 7 ราย ผู้รับประทานเนื้อดิบ 30 ราย และผู้สัมผัสร่วมบ้าน 4 ราย รวม 41 ราย และ 3. กลุ่มผู้ติดเชื้อโรคแอนแทรกซ์ 1 ราย วัย 53 ปี ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พัทยาปัทมคุณ จ.ชลบุรี