นางชญานันท์ ภักดีจิตต์ เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในฐานะหน่วยประสานงานกลางอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 เห็นชอบให้นำเสนอวัดพระมหาธาตุฯ ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา สผ. ได้รับหนังสือแจ้งจากสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ (ICOMOS) ซึ่งเป็นองค์กรที่ปรึกษาคณะกรรมการมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ว่าจะจัดส่งผู้เชี่ยวชาญเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อประเมินความเป็นไปได้ของการขึ้นทะเบียน โดย สผ. จะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสมในการต้อนรับผู้เชี่ยวชาญอย่างเป็นทางการ
การประเมินจะครอบคลุมพื้นที่วัดพระมหาธาตุฯ และเขตกันชนโดยรอบ รวมถึงการเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชน และสถาบันการศึกษา เพื่อรวบรวมข้อมูลในทุกมิติ ก่อนส่งต่อให้คณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาในขั้นตอนต่อไป
สำหรับการเสนอขึ้นทะเบียนในครั้งนี้ ประเทศไทยชูคุณค่าความโดดเด่นสากลของวัดพระมหาธาตุฯ ในฐานะแหล่งรวมความหลากหลายทางศาสนา ความต่อเนื่องทางจิตวิญญาณ และศิลปะที่ผสมผสานอิทธิพลจากศาสนาฮินดู พุทธศาสนามหายาน และพุทธศาสนาเถรวาท ที่สะท้อนผ่านสถาปัตยกรรม พิธีกรรม และประเพณีท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น พิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุ การแสดงโนรา พิธีพราหมณ์ และการบูชาบรรพบุรุษ ซึ่งยังคงดำรงอยู่กว่า 1,500 ปี
สผ. ขอเชิญชวนชาวนครศรีธรรมราชร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับคณะผู้เชี่ยวชาญด้วยความภาคภูมิใจ เพื่อร่วมกันสื่อสารคุณค่าของวัดพระมหาธาตุฯ ให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติ และร่วมกันผลักดันให้ก้าวสู่การเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของภาคใต้ในอนาคต