พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มผู้ต้องหาเข้าไปก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของกลางภายในกรมศุลกากร ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาควาทปลอดภัยที่เข้าไปห้ามและตามคนร้าย ถูกถอยรถมาชนจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ว่า คนร้ายมี 6 คน จากการสืบสวนตอนนี้ตำรวจทั้ง สืบ บชน. สืบนครบาล 5 สืบ สน.ท่าเรือ กำลังตรวจสอบกล้องและเส้นทางการหลบหนี คาดว่าวันนี้จะได้ตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน และมีบางคนพบประวัติลักทรัพย์อีกด้วย
สำหรับคดีนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 6 มีความผิดในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันปล้นซับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถาน สถานที่ราชการ ร่วมกันบุกรุก เบื้องต้นตำรวจติดตามรถของกลางที่ใช้ก่อเหตุขนของและชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิตได้ที่ วัดแห่งหนึ่งย่านพระราม 3
พล.ต.ต.วิทวัฒน์ กล่าวว่า ทางกรมศุลกากรมาเช่าพื้นที่ของการท่าเรือฯ ในการเก็บของกลาง มีตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 55 ตู้ เก็บของกลางทั้งเอกสารและสินค้าอื่นๆ แต่เมื่อคืนที่ผู้ก่อเหตุเข้ามาขโมยได้มีการตัดกุญแจตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 5 ตู้ แบ่งเป็น ตู้เอกสาร 2 ตู้ ตู้สินค้าอื่น 2 ตู้ และตู้บุหรี่ไฟฟ้า 1 ตู้ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นของกลางจากหลายพื้นที่ที่กวาดล้างและนำมาเก็บรวมไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวเป็นหลักฐานระหว่างการพิจารณาคดี ส่วนเมื่อคืนที่เชิญตัวนายเบิร์ด เจ้าของรถที่ใช้ในการก่อเหตุมา เบื้องต้นให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับตำรวจถึงพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหา ส่วนจะมีความผิดหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ขณะที่นายเฉลิมศักดิ์ บัวแก้ว ผู้อำนวยการส่วนของกลาง กองสืบสวนปราบปราม กรมศุลกากร กล่าวว่า ตู้คอนเทนเนอร์ที่เช่าพื้นที่การท่าเรือฯ เก็บไว้ ไม่ได้มีการแปะป้ายบ่งบอกว่าภายในตู้เป็นสินค้าอะไร เพื่อป้องกันการขโมย แต่เหตุการณ์นี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้บาดเจ็บจนเสียชีวิต และบุหรี่ไฟฟ้าที่อยู่ตู้คอนเทนเนอร์มีประมาณ 200,000 ชิ้น ส่วนมองว่าจะเป็นการชี้เป้าหรือไม่ ต้องบอกว่าตามข้อเท็จจริงคือผู้ก่อเหตุสุ่มเปิด 5 ตู้คอนเทนเนอร์ แต่ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบของตำรวจว่าจะเป็นการชี้เป้าหรือไม่ ให้น้ำหนัก 50%
นอกจากนี้ ตำรวจสืบนครบาลได้คุมตัว นายเจ เพื่อนคนก่อเหตุ บอกว่า เมื่อคืนตนเองอยู่บ้าน แต่นายจีมาหาตนเองที่บ้านพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน บอกขอฝากบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งตนไม่ได้ถามว่าเอามาจากไหน พอนายจีวางของกลางเสร็จ ก็ออกไปจากบ้านโดยไม่บอกว่าออกไปไหน ซึ่งตนก็ไม่ได้ถามและไม่ได้เอะใจว่าเพื่อนจะไปขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาหรือไม่ เบื้องต้นตำรวจจะสอบปากคำนายเจ รวมถึงอาจแจ้งข้อหาในการช่วยสนับสนุนอำพรางของกลาง