นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า ศึกแดง-น้ำเงิน วัดใจ“รัฐพันลึก
ถ้าพูดถึงการต่อสู้ทางการเมือง ศึกระหว่างสีแดงกับสีน้ำเงิน ที่กำลังฟาดฟันกันอยู่ในขณะนี้ ก็เปรียบเสมือนไก่ในเล้าหรือไก่ในเข่ง หรือไก่ในคอก ที่จิกตีกัน รอเจ้าของคอก เจ้าของเล้ามาจับแยก ถ้าหากเจ้าของเล้า เจ้าของคอกไม่จับแยก ก็ตีกันจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแพ้ชนะกันไป หรืออาจจะบาดเจ็บกันทั้ง2ฝ่าย
การเมืองที่ร้อนแรงในขณะนี้ ทั้งฝ่ายสีแดงและฝ่ายสีน้ำเงิน ต่างก็บาดเจ็บพอๆกัน ฝ่ายสีแดงโดนคดีจำนำข้าว ที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำวินิจฉัยให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องชดใช้ค่าเสียหายจากการขายข้าวG to G 4สัญญา เป็นเงิน 10,028 ล้านบาท เป็นสัญญาณให้เห็นว่า ฝ่ายสีแดงกำลังมีปัญหากับเจ้าของดีล ซึ่งยังไม่นับรวมไปถึงคดีที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนวันที่ 13 มิถุนายน 2568 นี้
ถ้าหากผลออกมาเป็นบวกกับฝ่ายสีแดง ก็ดีไป แต่ถ้าหากผลออกมาเป็นลบ ก็จะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่า สีแดงก็อยู่ในฐานะที่ลำบากเช่นเดียวกัน ยังคดีมาตรา 112 ที่ศาลอาญาจะเริ่มพิจารณาอยู่ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ และยังการร้องเรียนเอาผิดกับนางสาวแพทองธารอีกหลายคดี
ในขณะเดียวกันฝ่ายสีน้ำเงิน ก็ถูกดีเอสไอ รุกไล่เล่นงาน จับมือกับ กกต.ดำเนินคดีกับ ส.ว.สายสีน้ำเงิน 138 คน +2 ในข้อหาฟอกเงินและอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งอาจจะลุกลามไปถึงการยุบพรรคสีน้ำเงินหรือพรรคภูมิใจไทยได้ เหนื่อยกันทั้ง2สีทั้ง2พรรค ซึ่งสีแดงก็คือพรรคเพื่อไทย สีน้ำเงินก็พรรคภูมิใจไทย ต่างก็อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เป็นการสู้กันทางการเมือง โดยมีรัฐพันลึก เฝ้าดูสถานการณ์อยู่ ในฐานะผู้สนับสนุนที่เป็นแบ็คอัพให้ทั้ง 2 พรรค และทั้งพรรคก็พร้อมรับใช้รัฐพันลึกเช่นเดียวกัน
ในสถานการณ์เช่นนี้ อยู่ที่การตัดสินใจของรัฐพันลึก ว่าจะสนับสนุนพรรคไหนหรือสีไหน และให้มีบทบาทเหนือกว่ากัน ต้องรอดูและวัดใจว่า การเมืองในวันข้างหน้า รัฐพันลึกต้องการเลือกใช้บริการสีไหน พรรคไหนทางการเมืองมากกว่ากัน