นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิปรัฐบาล) ยืนยันว่า ขณะนี้ สส. รัฐบาลทุกพรรคการเมืองทั้ง 324 เสียง พร้อมที่จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัตงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 และพร้อมที่จะรับหลักการ โดยไม่มีปัญหาอะไร แม้ในช่วงนี้ตามกระแสการเมือง มีคนอยากให้เป็นอย่างโน้นอย่างนี้ และอาจจะมีคนไปยุแยงบ้าง แต่ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของวิป และเชื่อว่ายังไม่มี เรื่องของการยุบสภา เพราะการให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัตงบประมาณถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะขณะนี้มีปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลก อีกทั้งไทยยังเจอปัญหาหลายด้านทั้งผลกระทบจากแผ่นดินไหว และกำแพงภาษีจากสหรัฐอเมริกา ดังนั้นงบประมาณ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งรัฐบาลจึงได้จัด 157,000 ล้านบาท ออกไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หากล่าช้าออกไปจะเป็นปัญหา จึงเชื่อว่านักการเมืองอยากให้ประเทศชาติบ้านเมืองไปรอด ไปได้และสามารถดูแลเศรษฐกิจของประเทศชาติซึ่งเป็นเรื่องหลักได้ จึงเชื่อว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือและเชื่อว่าไม่น่าจะมีอุบัติเหตุทางการเมืองใดใดทั้งสิ้น ขณะนี้ยังกินได้ นอนหลับสบายอยู่ ไม่มีความกังวลอะไรแม้แต่น้อย
สำหรับความจำเป็นในการตั้งองครักษ์คอยตอบโต้นั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเตรียม เพราะในพรรคเพื่อไทยก็มีนักวิชาการที่เตรียมข้อมูลให้กับ สส. ในการอภิปราย รวมถึงแผ่นชาร์ตต่างๆ ไม่ถือเป็นองครักษ์อะไร และเชื่อมั่นว่าการจัดสรรเวลาก็ลงตัวแล้ว แต่ละพรรคได้เวลาไปก็ดำเนินการในส่วนของแต่ละพรรคจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปราเรื่องการโยกงบประมาณในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปใช้ใน 4 โครงการนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลสามารถตอบได้ ว่ามีเหตุผลและมีความจำเป็นทางด้านเศรษฐกิจและขณะนี้หลายฝ่ายมองว่ายังไม่ต้องทำ โดยให้ชะลอไปก่อน แต่ในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจเต็มเรื่องที่จะต้องเร่งทำ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยแต่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันแก้ไข ดังนั้นจึงไม่มีความกังวลใดๆ และในทีมของรัฐบาลพร้อมที่จะชี้แจงและสามารถตอบนายวิสุทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรอบเวลาในการอภิปรายที่เตรียมไว้ 40 ชั่วโมงแบ่งกันเรียบร้อย ฝ่ายละ 20 ชั่วโมง แต่ในการอภิปรายก็จะให้ความร่วมมือ เพื่อจะบริหารกรอบเวลาร่วมกัน ซึ่งในวันสุดท้ายน่าจะไม่เกิน 17.00 น. ส่วนวันอื่น ก็ไม่น่าจะเกิน 22.00 น. โดยพยายามไม่ให้ดึกจนเกินไปเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ที่ติดตาม และเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะมาติดตามการอภิปรายงบประมาณของสส. โดยอาจจะยกทีมมาทำงานที่สภาเลย