นายนพพร ประทุมเหง่า ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ตามที่พบช้างป่าเพศผู้มีงา นอนตายอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ท้องที่หมู่ที่ 7 บ้านรวมไทย ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.30 น. คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี นำโดยนายอนุชาติ อาจหาญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมด้วยนายอนุรักษ์ สกุลพงษ์ นายสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านยางชุม เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 1452 (บ้านย่านซื่อ) ทหารชุดประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มณฑลทหารบกที่ 15 เจ้าหน้าที่โครงการอนุรักษ์สัตว์ป่ากลุ่มป่าแก่งกระจาน WWF ประเทศไทย และราษฎรในพื้นที่ ได้เข้าตรวจสอบซากช้างป่าและทำการผ่าชันสูตร
นายอนุรักษ์ สกุลพงษ์ นายสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมทีมสัตวแพทย์ฯ ได้ทำการผ่าชันสูตรซากช้างป่า พบว่า เป็นช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 10 ปี น้ำหนักประมาณ 1.5 ตัน มีงาทั้ง 2 ข้าง สภาพซากเน่าสลาย ไม่พบบาดแผลใดๆ ที่เห็นได้ชัดเจนจากภายนอก คาดว่าตายมาแล้ว 5-7 วัน
ทีมสัตวแพทย์ได้ใช้เครื่องสแกนโลหะตรวจสอบร่างกายช้าง แต่ไม่พบว่าเครื่องส่งสัญญาณว่ามีโลหะในร่างกาย จากนั้นได้ทำการผ่าซากพบว่าอวัยวะภายในได้เน่าสลายจนไม่สามารถเก็บตัวอย่างได้
คณะสัตวแพทย์จึงได้ทำการพลิกซากช้างเอาด้านขวาขึ้น และพบรอยบาดแผลบริเวณสะโพกขวา ขนาด 10x10 ซม. จึงได้ทำการล้วงตามบาดแผลไปลึกถึงกระดูกสะโพก (Ilium) พบว่ากระดูกสะโพกทะลุและแตกเป็น 2 ส่วน มีเศษอาหารทะลักออกมาในรู โดยบาดแผลอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 150 ซม. ผิวหนังขอบแผลมีลักษณะไม่เรียบ คล้ายรอยฉีก จากลักษณะบาดแผลดังกล่าว ทีมสัตวแพทย์จึงคาดว่าสาเหตุการตายน่าจะเกิดจากพฤติกรรมช้างป่ามีงาขนาดใหญ่ทำร้าย เนื่องจากขนาดบาดแผลมีความใกล้เคียงกับขนาดของงาช้างเต็มวัย ทำให้ช้างตัวนี้ได้รับบาดเจ็บและตายในที่สุด
หลังการชันสูตร เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีได้ทำการถอดงาทั้ง 2 ข้าง เก็บรักษาไว้ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และคณะเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องและทีมสัตวแพทย์ได้ลงความเห็นว่าเห็นควรทำลายซากด้วยวิธีฝังกลบซากในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อสู่สัตว์ป่าอื่นๆ ต่อไป พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากรลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรบ้านยางชุม
สำหรับอุทยานแห่งชาติกุยบุรีเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มป่าแก่งกระจาน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ และเป็นพื้นที่สำคัญที่มีประชากรช้างป่าอาศัยอยู่จำนวนมาก ซึ่งการพบช้างป่าตายในลักษณะนี้สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมธรรมชาติของช้างป่าที่อาจมีการต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงถิ่นที่อยู่หรือในช่วงฤดูผสมพันธุ์