นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ิส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า อุ๊งอิ๊ง รู้หลักบริหารประเทศแค่ไหน???
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ มีนักข่าวไปถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าจะให้ใครมากำกับดูแลดีเอสไอแทน พ.ต.อ.ทวี ซึ่งน.ส.แพทองธารไม่ตอบ แต่หันไปซุบซิบพูดคุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จนถึงล่าสุดก่อนเดินทางไปเยือนประเทศเวียดนาม มีนักข่าวไปดักถามอีกว่า ท่านนายกฯ จะให้ใครมากำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ซึ่ง น.ส.แพทองธารบอกว่า ”เดี๋ยวต้องเสนอ ครม.“ นักข่าวถามต่อ หรือว่าท่านจะดูเอง น.ส.แพทองธารตอบว่า ”อ๋อ คงมอบหมาย“
การที่ผู้สื่อข่าวถามเรื่องนี้ 2 ครั้ง 2 วัน แต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนจากปากของน.ส.แพทองธาร นั่นก็หมายความว่า น.ส. แพทองธาร ยังไม่รู้ว่าจะมอบหมายใครมาดูแลแทน อาจเพราะไม่ทราบถึงระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน เพราะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ความรู้รอบตัวน้อย ขาดประสบการณ์ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการบริหารราชการบ้านเมืองเลย จึงไม่รู้ขั้นตอนระบบของราชการ ทั้งที่มติคณะรัฐมนตรี มีการแบ่งงานของรัฐมนตรีอยู่แล้ว คนที่ควบคุมรับผิดชอบดูแลกระทรวงยุติธรรม คือนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและเป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือบอร์ดดีเอสไอ จะเป็นเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
แต่อาจจะเป็นเพราะว่าไม่เข้าใจระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน จึงไม่กล้าตอบนักข่าว ในทางปฏิบัติจะมอบให้ใครกำกับดูแล แล้วค่อยแจ้งให้ ครม.รับทราบก็ได้ ซึ่งสามารถบอกกับผู้สื่อข่าวได้ว่า โดยตามมติ ครม.อยู่ในการกำกับของนายภูมิธรรม และจะนำเรื่องนี้ขอความเห็นชอบหรือเสนอต่อ ครม.เพื่อรับทราบก็จบ
ซึ่งถ้านายภูมิธรรมมากำกับดูแล จะทำให้งานของดีเอสไอ เดินต่อไปได้ไม่ต้องสะดุด เพราะคดีฮั้ว ส.ว.นั้น สังคมรอคอยอยู่ว่า จะมีข้อยุติหรือไม่ ความจริงจะปรากฏอย่างไร ซึ่งประชาชนได้ตั้งความหวังไว้ใน 3 ส่วน คือ
1.กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สังคมอยากรู้ว่าดีเอสไอสามารถสอบสวนเอาผิดกับขบวนการฮั้ว ส.ส.ได้หรือไม่ เพราะเคยบอกว่า มีข้อมูลชัดเจน ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร สถานที่ โพยฮั้ว เส้นทางการเงิน และนำระบบ AI มาสอบสวนด้วย อยากจะพิสูจน์ว่าเป็นแค่ราคาคุยของดีเอสไอ ที่โฆษณาโอ้อวดเรื่องพยานหลักฐานว่า สามารถเอาผิดได้แน่นอน
2.คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขาดความเชื่อถือทางสังคม เรื่องจับทุจริตการเลือกตั้งมาโดยตลอด ครั้งนี้สามารถเรียกศรัทธาคืนมาได้หรือไม่ เมื่อได้ร่วมมือกับดีเอสไอ ถ้าทำได้เอาผิดได้ ล้มกระดานได้ ยกเลิกการสรรหา ส.ว.ชุดนี้ไป จัดสรรหา ส.ว.ชุดใหม่ ให้สุจริตเที่ยงธรรม ก็สามารถเรียกศรัทธากลับคืนมาได้
3.ในภาคประชาสังคม ซึ่งสังคมโดยทั่วไปผู้คนในสังคมเชื่อว่าส.ว. ชุดนี้ทุจริต ฮั้วกัน บล็อกโหวต มีการจ่ายเงินกัน ไม่สุจริต คนทุกคนในสังคมรับรู้ แต่ว่าไม่สามารถทำอะไรได้ แม้แต่คนอยู่ดาวอังคารยังมองเห็นว่าการสรรหา ส.ว.ชุดนี้ทุจริต แต่ผู้รับผิดชอบไม่สามารถเอาผิดได้
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ เมื่อดีเอสไอกับ กกต.จับมือกัน เดินเครื่องต่อไปให้สุดซอย เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ไม่ให้สังคมผิดหวัง
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ มีนักข่าวไปถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าจะให้ใครมากำกับดูแลดีเอสไอแทน พ.ต.อ.ทวี ซึ่งน.ส.แพทองธารไม่ตอบ แต่หันไปซุบซิบพูดคุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จนถึงล่าสุดก่อนเดินทางไปเยือนประเทศเวียดนาม มีนักข่าวไปดักถามอีกว่า ท่านนายกฯ จะให้ใครมากำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ซึ่ง น.ส.แพทองธารบอกว่า ”เดี๋ยวต้องเสนอ ครม.“ นักข่าวถามต่อ หรือว่าท่านจะดูเอง น.ส.แพทองธารตอบว่า ”อ๋อ คงมอบหมาย“
การที่ผู้สื่อข่าวถามเรื่องนี้ 2 ครั้ง 2 วัน แต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนจากปากของน.ส.แพทองธาร นั่นก็หมายความว่า น.ส. แพทองธาร ยังไม่รู้ว่าจะมอบหมายใครมาดูแลแทน อาจเพราะไม่ทราบถึงระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน เพราะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ความรู้รอบตัวน้อย ขาดประสบการณ์ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการบริหารราชการบ้านเมืองเลย จึงไม่รู้ขั้นตอนระบบของราชการ ทั้งที่มติคณะรัฐมนตรี มีการแบ่งงานของรัฐมนตรีอยู่แล้ว คนที่ควบคุมรับผิดชอบดูแลกระทรวงยุติธรรม คือนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและเป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือบอร์ดดีเอสไอ จะเป็นเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
แต่อาจจะเป็นเพราะว่าไม่เข้าใจระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน จึงไม่กล้าตอบนักข่าว ในทางปฏิบัติจะมอบให้ใครกำกับดูแล แล้วค่อยแจ้งให้ ครม.รับทราบก็ได้ ซึ่งสามารถบอกกับผู้สื่อข่าวได้ว่า โดยตามมติ ครม.อยู่ในการกำกับของนายภูมิธรรม และจะนำเรื่องนี้ขอความเห็นชอบหรือเสนอต่อ ครม.เพื่อรับทราบก็จบ
ซึ่งถ้านายภูมิธรรมมากำกับดูแล จะทำให้งานของดีเอสไอ เดินต่อไปได้ไม่ต้องสะดุด เพราะคดีฮั้ว ส.ว.นั้น สังคมรอคอยอยู่ว่า จะมีข้อยุติหรือไม่ ความจริงจะปรากฏอย่างไร ซึ่งประชาชนได้ตั้งความหวังไว้ใน 3 ส่วน คือ
1.กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สังคมอยากรู้ว่าดีเอสไอสามารถสอบสวนเอาผิดกับขบวนการฮั้ว ส.ส.ได้หรือไม่ เพราะเคยบอกว่า มีข้อมูลชัดเจน ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร สถานที่ โพยฮั้ว เส้นทางการเงิน และนำระบบ AI มาสอบสวนด้วย อยากจะพิสูจน์ว่าเป็นแค่ราคาคุยของดีเอสไอ ที่โฆษณาโอ้อวดเรื่องพยานหลักฐานว่า สามารถเอาผิดได้แน่นอน
2.คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขาดความเชื่อถือทางสังคม เรื่องจับทุจริตการเลือกตั้งมาโดยตลอด ครั้งนี้สามารถเรียกศรัทธาคืนมาได้หรือไม่ เมื่อได้ร่วมมือกับดีเอสไอ ถ้าทำได้เอาผิดได้ ล้มกระดานได้ ยกเลิกการสรรหา ส.ว.ชุดนี้ไป จัดสรรหา ส.ว.ชุดใหม่ ให้สุจริตเที่ยงธรรม ก็สามารถเรียกศรัทธากลับคืนมาได้
3.ในภาคประชาสังคม ซึ่งสังคมโดยทั่วไปผู้คนในสังคมเชื่อว่าส.ว. ชุดนี้ทุจริต ฮั้วกัน บล็อกโหวต มีการจ่ายเงินกัน ไม่สุจริต คนทุกคนในสังคมรับรู้ แต่ว่าไม่สามารถทำอะไรได้ แม้แต่คนอยู่ดาวอังคารยังมองเห็นว่าการสรรหา ส.ว.ชุดนี้ทุจริต แต่ผู้รับผิดชอบไม่สามารถเอาผิดได้
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ เมื่อดีเอสไอกับ กกต.จับมือกัน เดินเครื่องต่อไปให้สุดซอย เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ไม่ให้สังคมผิดหวัง