เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. 2568 ความว่า
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ สมควรที่จะเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 122 และมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2568 ตามพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง พ.ศ. 2568 แต่เนื่องจากมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ ตามมาตรา 122 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย สมควรที่จะเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า รัฐบาลได้ประสานที่จะขอเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญในวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2568 เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 และร่าง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และร่าง พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568
ทั้งนี้ หากพิจารณาทั้ง 3 วาระเสร็จสิ้นแล้วยังมีเวลาเหลือก็สามารถพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ต่อได้ เพราะเรื่องร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงฯ อยู่ในระเบียบวาระลำดับ 1 แต่หากไม่อยากให้พิจารณา ก็ต้องเสนอเรื่องด่วนเข้ามาแทน
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ สมควรที่จะเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 122 และมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2568 ตามพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง พ.ศ. 2568 แต่เนื่องจากมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ ตามมาตรา 122 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย สมควรที่จะเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า รัฐบาลได้ประสานที่จะขอเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญในวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2568 เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 และร่าง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และร่าง พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568
ทั้งนี้ หากพิจารณาทั้ง 3 วาระเสร็จสิ้นแล้วยังมีเวลาเหลือก็สามารถพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ต่อได้ เพราะเรื่องร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงฯ อยู่ในระเบียบวาระลำดับ 1 แต่หากไม่อยากให้พิจารณา ก็ต้องเสนอเรื่องด่วนเข้ามาแทน