xs
xsm
sm
md
lg

รมว.สาธารณสุข วอนอย่าตระหนก โควิด-19 กลับมาระบาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีแพทย์ออกมาเตือนโควิด-19 กลับมาระบาดหนัก ว่า สถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 – ปัจจุบัน มีผู้ป่วยสะสม 53,676 ราย เสียชีวิต 16 ราย โดยจังหวัดที่มีผู้ป่วยสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จำนวน 16,723 ราย ซึ่งเริ่มมีการติดเชื้อสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 15 และติดเชื้อสูงสุดในช่วงสัปดาห์ที่ 18 ระหว่างวันที่ 27 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2568 จำนวน 14,349 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งมีการติดเชื้อมากที่สุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 4,624 ราย รองลงมา จ.ชลบุรี 1,177 ราย จ.นนทบุรี 866 ราย และ จ.ระยอง 553 ราย แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ 19 ระหว่างวันที่ 4 พ.ค.-10 พฤษภาคม 2568 ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือ 12,543 ราย โดยจะเห็นได้ว่าแนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มลดลงแล้ว

ทั้งนี้ จากข้อมูลการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา ประเทศไทยสามารถพบผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคมีความสัมพันธ์กับกิจกรรม หรือ การรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก รวมถึงปัจจัยด้านฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนจะมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ซึ่งขอเน้นย้ำว่า โรคโควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี จึงขอให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะโควิด-19 ปัจจุบัน ติดง่าย แต่อาการรุนแรงน้อย แต่ก็ขอเน้นย้ำ ให้ระมัดระวัง ปฎิบัติตามคำแนะนำด้านสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด

นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีเกิดการเจ็บป่วย หรือ สงสัยว่าเป็นโควิด-19 ควรปฏิบัติ คือ

1. หากมีอาการสงสัย หรือ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ มีเสมหะ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ให้ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ทันที

2. หากผลการตรวจเป็นบวก ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวและผู้อื่น แยกของใช้ส่วนตัว หากจำเป็นต้องออกจากที่พัก ขอให้เข้มงวดมาตรการเว้นระยะห่าง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

3. กรณีที่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น มีไข้ ไอ มีเสมหะ โดยที่อาการไม่รุนแรง แต่ไม่สามารถตรวจ ATK ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่สาธารณะ หากจำเป็น จะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

4. กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูง หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการ และ 5.งดหรือหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง 608 หากไม่สามารถหลีกเลี่ยง จะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา