นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า การเปิดศึกฮั้ว ส.ว. ระหว่างฝ่ายสีแดงกับฝ่ายน้ำเงิน ตั้งแต่เริ่มต้นมีการวิเคราะห์ว่า จะจบด้วยการฮั้วอำนาจกันของ 2 ฝ่าย เป็นเกมการต่อรองทางการเมืองหรือไม่ นับตั้งแต่มีการชงเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ เพื่อให้คดีฮั้ว ส.ว. ฟอกเงิน อั้งยี่ เป็นคดีพิเศษให้ได้ แต่ในที่สุดมติของคณะกรรมการคดีพิเศษ ครั้งที่ 2 มีมติให้รับเป็นคดีพิเศษเฉพาะคดีฟอกเงินและอั้งยี่เท่านั้น
หลังจากนั้น ส.ว. สายสีน้ำเงิน 81คน ลงชื่อยื่นต่อ ปปช.เพื่อให้สอบสวนการปฎิบัติหน้าที่ของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะกรรมการคดีพิเศษ 11 คน และขอให้สอบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 รวมถึง พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร และสมาชิกวุฒิสภารวม 42 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะประธานกรรมการคดีพิเศษ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะรองประธานกรรมการคดีพิเศษ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องไว้แล้ว
จนทำให้มีการเห็นว่าคดีนี้มีการชิงไหวชิงพริบกันระหว่างระหว่างฝ่ายสีแดงกับสีน้ำเงินมาโดยตลอด ฝ่ายสีน้ำเงินใช้กลไกของฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย และความเคลื่อนไหวของส.ว. สายสีน้ำเงินกดดัน การทำหน้าที่ของDSI ส่วนฝ่ายสีแดง ก็ใช้DSIทำงานสืบสวนสอบสวน หาพยานหลักฐาน เส้นทางการเงิน ใช้กฎหมายเล่นงาน อาจถึงขั้นแจ้งข้อหาดำเนินคดีส.ว. จนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ได้
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้สมัคร ส.ว.จำนวนหนึ่ง ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากกรณีที่ นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร ส.ว.มหาสารคาม ร้องเรียนอธิบดีDSI หลังเข้าแจ้งความกรณีฮั้วเลือก ส.ว. แล้วเจ้าหน้าที่รัฐ(นายอำเภอ)ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ขอสำเนาการแจ้งความ หวั่นไม่ได้รับความปลอดภัย
ล่าสุด DSI เข้าไปลงพื้นที่ไปสอบผู้สมัคร ส.วในจังหวัดอำนาจเจริญ ก็โดนนายณรงค์ เทพเสนา ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ทำหนังสือลับ ด่วนที่สุดที่ อจ 0018.2/3 ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เรื่องรายงานเหตุกลุ่มบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ และข่มขู่อดีตผู้สมัคร สว. 2 ราย จน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกมายืนยันว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของDSIจริง และไม่มีการข่มขู่บังคับ ผู้สมัครส.ว.แต่อย่างใด จน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้องออกมาเตือนผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ว่าถ้าไม่ให้ความร่วมมือ หรือขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ของDSI จะมีความผิดตามมาตรา 22 มีโทษจำคุก1ปีถึง 10 ปีได้ แต่นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า ถ้าDSI จะเข้ามาขอความร่วมมือในพื้นที่ ก็ต้องทำตามกฎหมาย
จะเห็นได้ว่าทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต่างก็ปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาในการปฎิบัติหน้าที่เช่นกัน เชื่อว่าเรื่องคดีฮั้ว ส.ว. เป็นการใช้อำนาจรัฐของแต่ละฝ่าย เหมือนกับมีดาบคนละเล่มฟาดฟันกัน รอดูว่าจุดจบฝ่ายใดจะชัยชนะ หรือสู้กัน จนบาดเจ็บสาหัส ต้องเจรจาสงบศึกกัน
หลังจากนั้น ส.ว. สายสีน้ำเงิน 81คน ลงชื่อยื่นต่อ ปปช.เพื่อให้สอบสวนการปฎิบัติหน้าที่ของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะกรรมการคดีพิเศษ 11 คน และขอให้สอบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 รวมถึง พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร และสมาชิกวุฒิสภารวม 42 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะประธานกรรมการคดีพิเศษ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะรองประธานกรรมการคดีพิเศษ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องไว้แล้ว
จนทำให้มีการเห็นว่าคดีนี้มีการชิงไหวชิงพริบกันระหว่างระหว่างฝ่ายสีแดงกับสีน้ำเงินมาโดยตลอด ฝ่ายสีน้ำเงินใช้กลไกของฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย และความเคลื่อนไหวของส.ว. สายสีน้ำเงินกดดัน การทำหน้าที่ของDSI ส่วนฝ่ายสีแดง ก็ใช้DSIทำงานสืบสวนสอบสวน หาพยานหลักฐาน เส้นทางการเงิน ใช้กฎหมายเล่นงาน อาจถึงขั้นแจ้งข้อหาดำเนินคดีส.ว. จนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ได้
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้สมัคร ส.ว.จำนวนหนึ่ง ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากกรณีที่ นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร ส.ว.มหาสารคาม ร้องเรียนอธิบดีDSI หลังเข้าแจ้งความกรณีฮั้วเลือก ส.ว. แล้วเจ้าหน้าที่รัฐ(นายอำเภอ)ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ขอสำเนาการแจ้งความ หวั่นไม่ได้รับความปลอดภัย
ล่าสุด DSI เข้าไปลงพื้นที่ไปสอบผู้สมัคร ส.วในจังหวัดอำนาจเจริญ ก็โดนนายณรงค์ เทพเสนา ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ทำหนังสือลับ ด่วนที่สุดที่ อจ 0018.2/3 ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เรื่องรายงานเหตุกลุ่มบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ และข่มขู่อดีตผู้สมัคร สว. 2 ราย จน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกมายืนยันว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของDSIจริง และไม่มีการข่มขู่บังคับ ผู้สมัครส.ว.แต่อย่างใด จน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้องออกมาเตือนผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ว่าถ้าไม่ให้ความร่วมมือ หรือขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ของDSI จะมีความผิดตามมาตรา 22 มีโทษจำคุก1ปีถึง 10 ปีได้ แต่นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า ถ้าDSI จะเข้ามาขอความร่วมมือในพื้นที่ ก็ต้องทำตามกฎหมาย
จะเห็นได้ว่าทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต่างก็ปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาในการปฎิบัติหน้าที่เช่นกัน เชื่อว่าเรื่องคดีฮั้ว ส.ว. เป็นการใช้อำนาจรัฐของแต่ละฝ่าย เหมือนกับมีดาบคนละเล่มฟาดฟันกัน รอดูว่าจุดจบฝ่ายใดจะชัยชนะ หรือสู้กัน จนบาดเจ็บสาหัส ต้องเจรจาสงบศึกกัน