กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศขึ้นบัญชีดำกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Army: KNA) และ ซอ ชิตตู ผู้นำกองกำลัง พร้อมด้วยบุตรชายทั้งสองคน ฐานมีส่วนสนับสนุนการดำเนินการของเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ในพื้นที่ชายแดนเมียนมา ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ KNA
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (5 พ.ค.) ว่า KNA ซึ่งเดิมชื่อว่า กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force: BGF) เป็น "องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" ที่ถูกห้ามไม่ให้ถือครองทรัพย์สินในสหรัฐฯ และห้ามทำธุรกรรมกับบุคคลสหรัฐฯ รวมทั้งระบุด้วยว่า ซอ ชิตตู เป็นผู้สนับสนุนหลักของการดำเนินการหลอกลวงในภูมิภาค ส่วนซอทูเอมู และซอ ชิตชิต ลูกชายของเขา เป็นเจ้าหน้าที่ของ KNA และทั้งคู่มีบทบาทสำคัญในองค์กรอาชญากรรมของ KNA
แถลงการณ์ระบุว่า KNA ซึ่งมีฐานอยู่ในชเวโก๊กโก เมืองเมียวดี อาศัยบทบาทเดิมของตนในฐานะกองกำลังพิทักษ์ชายแดนที่เป็นพันธมิตรกับกองทัพเมียนมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับอาณาจักรอาชญากรรมข้ามชาติ แม้ว่าทางกลุ่มได้เปลี่ยนชื่อในเดือนมีนาคม 2567 แต่ก็ยังคงร่วมมือกับกองทัพเมียนมาเรื่อยมาจนถึงเดือนกันยายน 2567
นายไมเคิล ฟอลเคนเดอร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า กระทรวงการคลังมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อทำลายเครือข่ายเหล่านี้ และดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่แสวงหากำไรจากขบวนการอาชญากรรมเหล่านี้
ทั้งนี้ ชาวอเมริกันสูญเสียทรัพย์สินเงินทองจากการหลอกลวงทางไซเบอร์ที่มีต้นทางมาจากเมียนมา และประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คิดเป็นมูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2565 และ 3.5 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2566 ตามข้อมูลของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งระบุด้วยว่า KNA ทำกำไรจากขบวนการหลอกลวงทางไซเบอร์ในระดับอุตสาหกรรม ด้วยการให้กลุ่มอาชญากรอื่นๆ เช่าที่ดินเพื่อเปิดศูนย์หลอกลวง พร้อมให้ความคุ้มครองความปลอดภัย สนับสนุนการค้ามนุษย์ การลักลอบขนสินค้า และการขายสาธารณูปโภคที่ใช้ในการผลิตพลังงานให้กับเครือข่ายหลอกลวงเหล่านี้