xs
xsm
sm
md
lg

"อ.เจษฎา"เผยมันหมูไม่ได้โดนจัดอันดับเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "มันหมู ไม่ได้โดนจัดอันดับว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก"

จริงๆ เคยโพสต์อธิบายเรื่องนี้มาตั้งแต่ 6 ปีก่อนแล้ว แต่ก็มีคนเอากลับมาปั่นกระแส เรียกยอดไลค์กันอีก .. สรุปสั้นๆ ว่า มันมาจากงานวิจัยว่า อาหารอะไรมีปริมาณของ "สารอาหาร" ชนิดต่างๆ อยู่สูงบ้าง ซึ่งมันหมูก็ติดอันดับด้วย

... แต่ไม่ใช่ว่า เป็น "อาหารที่ดีต่อสุขภาพ" เพราะมันมีผลเสียต่อสุขภาพ ไม่น้อยด้วย จึงต้องควบคุมระวังไม่กินมากเกินไปครับ

ที่มาของเรื่องนี้ มาจากบทความของสำนักข่าว BBC ที่เอาผลการวิจัยในวารสาร The Plos One เมื่อปี ค.ศ. 2015 ชื่อ "Uncovering the Nutritional Landscape of Food" โดย Kim และคณะ จากมหาวิทยาลัย Pohang University of Science and Technology ในประเทศเกาหลีใต้ ( http://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0118697) มาเผยแพร่

โดยทีมนักวิจัย ได้วิเคราะห์วัตถุดิบอาหารต่างๆ กว่า 1,000 ชนิด จัดอันดับคุณค่าทางโภชนาการของอาหารแต่ละประเภท โดยยึดเอาส่วนผสม ว่ามีความสมดุลสำหรับความต้องการทางโภชนาการประจำวัน ของคนทั่วไป

โดยผลจากงานวิจัยนั้น ได้เผยแพร่เป็นการจัดอันดับ "100 The world’s Most Nutritious Foods" หรือแปลว่า 100 อาหารที่มี "คุณค่าทางอาหาร" มากที่สุด โดยงานวิจัยนั้น ศึกษาว่าอาหารชนิดต่างๆ มีค่า Nutritional Fitness สูงแค่ไหน กินแล้วสามารถได้สารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ ต่างๆ ครบถ้วนหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน แล้วจัดเรียงลำดับตามสารอาหารที่พบในอาหารชนิดนั้นๆ

ซึ่ง 10 อันดับแรก คือ 1. อัลมอนด์ 2. น้อยหน่า 3. ปลาเพิร์ช 4. ปลาซีกเดียว 5. เมล็ดเจีย 6. เมล็ดฟักทอง 7. ผักสวิสชาร์ด 8. "มันหมู" 9. บีทกรีน 10. ปลากะพงแดง

การที่ "มันหมู" ได้ติดอันดับอาหารที่คุณค่าทางสารอาหารสูงนั้น เนื่องจากเมื่อเทียบกับไขมันสัตว์อื่นๆ แล้ว มันมีองค์ประกอบที่ดูจะดีกว่าไขมันจากแกะ หรือไขมันจากวัว เนื่องจากมันหมูมี "กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว" สูงกว่ากรดไขมันอิ่มตัว (ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ) ..

. และ "ตามข่าว" มีการระบุว่า มันหมูเป็นแหล่งของวิตามินบี และแร่ธาตุหลายชนิดที่มีความสำคัญต่อร่างกายของคนเรา ทำให้ถูกจัดอันดับไว้ค่อนข้างสูงแล้ว (ซึ่งเรื่องวิตามินบีนี้ ไม่เป็นความจริงนะครับ อ่านรายละเอียดด้านล่าง)

แต่ๆๆ อย่าลืมว่า มันหมูมีองค์ประกอบหลักๆ เป็น "ไขมัน" ครับ ซึ่งจากข้อมูล ( https://th.m.wikipedia.org/มันหมู) พบว่า มันหมู มีองค์ประกอบไขมัน ที่เป็น "กรดไขมันอิ่มตัว" อยู่ทั้งหมดถึง 38–43% (เป็น กรดปาล์มมิติก Palmitic acid: 25–28% กรดสเตียริก Stearic acid: 12–14% และ กรดไมริสติก Myristic acid: 1%)

และเป็น "กรดไขมันไม่อิ่มตัว" อยู่ 56–62% (เป็น กรดไขมันไม่อิ่มต้วเชิงเดี่ยว Monounsaturated 47–50% คือ กรดโอเลอิก Oleic acid: 44–47% กรดปาล์มมิโทเลอิก Palmitoleic acid: 3% และ เป็น ไขมันไม่อิ่มตัวหลายโมเลกุล Polyunsaturated คือ กรดลิโนเลอิก Linoleic acid: 6–10% )

ในขณะที่ มันหมู ก็มีแคลอรี่สูงมาก คือ มันหมู 100 กรัม ให้พลังงานสูงถึง 900 กิโลแคลอรี่ !

ดังนั้น การเอาข่าวนี้มาบอกว่า "เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ" ก็ไม่ถูกต้องครับ ! เพราะกินมันหมูเข้าไปมากๆ ก็จะได้รับทั้งแคลอรี่และไขมันมากเกินควร ทำให้มีปัญหาสุขภาพตามมา เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ ได้

แถมว่า เคยมีการจัดอันดับ ข่าวปลอมด้านสุขภาพ ในปี 2563 และข่าว "มันหมูสารพัดสรรพคุณ" นั้น ถูกจัดไว้อันดับที่ 9 เลยทีเดียวครับ (ดู https://www.posttoday.com/lifestyle/609851)

และรายการชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย ก็เคยทำรายการตอน "มันหมูเป็นอาหารสุขภาพอันดับ 8 ของโลก จริงหรือ?" (ดู https://www.youtube.com/watch?v=Q1O8rLXzEoM )

โดยสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับคำเตือนเช่นกันว่าไม่ควรเชื่อ ไม่ควรแชร์ข่าวนี้ เพราะจะทำให้เข้าใจผิดได้ ... โดยระบุว่า มันหมู ก้อนขาวๆ นั้นเป็นไขมันเกือบ 100% อาจจะมีแร่ธาตุอยู่นิดหน่อย ส่วนวิตามินบีนั้น แทบจะไม่มีอยู่เลย ไขมันที่อยู่ในนั้นก็ เช่น กรดโอเลอิก ก็ไม่ได้จำเป็นต่อร่างกายอย่างที่อ้างกัน .. กินมากๆ ก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

แถมเมื่อทางรายการ ติดต่อสอบถามไปที่นักวิทยาศาสตร์ชาวเกาหลี เจ้าของงานวิจัยนี้ ก็ยืนยันว่า ไม่ได้ระบุไว้ในงานวิจัยซักหน่อยว่ามันหมูมีวิตามินบีและแร่ธาตุสูง อย่างที่เป็นข่าวกัน !