นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีมอบโฉนดที่ดินตามโครงการ "มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน" ตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ประจำปี 2568 ณ วัดม่วงสุม หมู่ 3 บ้านนามน ต.นาเลียง อ.นาแก จ.นครพนม โดยนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางรณิดา เหลืองฐิติสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขตตรวจราชการที่ 11 และนายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ร่วมด้วย
นายอนุทิน กล่าวว่า การออกโฉนดที่ดินในพื้นที่จังหวัดนครพนม เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ต้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน โดยกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการออกโฉนดที่ดิน ซึ่งขณะนี้มีโฉนดที่ดินที่ได้ดำเนินการตามโครงการฯ แล้วเสร็จ พร้อมมอบให้แก่พี่น้องประชาชนผู้เป็นเจ้าของที่ดินแล้ว เพื่อนำไปสร้างงาน สร้างรายได้ เพิ่มผลผลิต พัฒนาอาชีพของตนเองให้มีความเจริญมั่นคงต่อไป
ทั้งนี้ โฉนดที่ดินเป็นเอกสารสิทธิที่มีความสำคัญมาก ใช้เป็นแหล่งทุนในการประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว ซึ่งนับวันที่ดินจะหายากขึ้นและมีราคาสูง จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้รักและหวงแหนที่ดินของตนเอง อย่านำไปจำหน่ายจ่ายโอน และขอให้รักษาโฉนดที่ดิน ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิที่สำคัญไว้ให้ดี อย่าให้สูญหายหรือถูกผู้อื่นหลอกลวงเอาไปใช้ในทางที่ทำให้ท่านเสียประโยชน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ย้ำว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ตลอดจนนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันสอดส่องดูแลให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมอาชีพ สร้างโอกาส สร้างรายได้ ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้อยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี และขอขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องในการมอบโฉนดที่ดินครั้งนี้ถือว่าทุกคนได้ร่วมกันทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข และเรามีความสุขมาก ที่ได้เห็นพี่น้องประชาชนมีความสุข
สำหรับโฉนดที่ดินที่มอบในวันนี้ เป็นโฉนดที่ดินที่ได้ดำเนินการในท้องที่ ต.นาเลียง อ.นาแก จ.นครพนม จำนวน 90 แปลง ซึ่งที่ดินส่วนใหญ่ ประชาชนนำเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินโดยมีหลักฐานที่ดินเดิม เคยเป็นที่รกร้างว่างเปล่าและที่หัวไร่ปลายนา ตั้งอยู่นอกเขตที่ดินของรัฐทุกประเภท และไม่เป็นที่หลวงหวงห้ามหรือที่สาธารณประโยชน์ พื้นที่ส่วนใหญ่ราษฎรเข้าครอบครองทำประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ที่นา ปลูกข้าว ที่ไร่ ปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลัง และปลูกยางพารารา มาเป็นเวลากว่า 50 ปี มีเนื้อที่ประมาณ 277 ไร่ 2 งาน 80.3 ตารางวา คิดเป็นมูลค่าทางศรษฐกิจประมาณ จำนวน 44,000,000 บาท โดยได้รับความมือจากหน่วยงานราชการในท้องที่ อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่สนับสนุนภารกิจเป็นอย่างดี