นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) มองว่า ราคาทองคำยังไปต่อได้ในระยะยาว จากปัจจัยภาษีการค้าระหว่างประเทศ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด หรือการเดินหน้าของธนาคารกลางทั่วโลก เข้ามาถือทองคำเพื่อตอบโจทย์ให้ราคาทองคำไปต่อได้ แต่ในระยะสั้น จากที่เคยประเมินว่า แนวต้านอยู่ที่ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเปิดต้นปี ราคาทองคำอยู่ที่ 3,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในเดือนมกราคม จนถึงราคาสูงสุดที่ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เกือบ 27 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นปีแรกที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ ฉะนั้นในมุมมองระยะสั้นที่ปรับลดลงค่อนข้างเยอะแล้ว มีโอกาสที่จะดีดกลับไปที่ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากขึ้นไปในระดับนี้จริง มีโอกาสไปต่อ แต่หากแนวต้านที่ร่วงลงมาช่วง 3,350, 3,450 และ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าไม่ผ่านในแต่ละจุด มีโอกาสลงมาอีกครั้ง จนกว่าจะผ่าน 3 จุดนี้ขึ้นไป ก็สามารถกลับไปทำจุดสูงสุดได้อีกครั้ง