สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ เตรียมเพิกถอนการอนุญาตใช้สีสังเคราะห์บางชนิดในอาหาร และขอความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรมในการเลิกใช้สีสังเคราะห์อาหารโดยสมัครใจ
โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และมาร์ตี มาคารี กรรมมาธิการอาหารและยา (FDA Commissioner) ของสหรัฐฯ เปิดเผยเรื่องดังกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกันในวันอังคาร (22 เม.ย.) โดยเคเนดี ชี้ว่า การกำจัดสารเติมแต่งออกจากอาหารมีความจำเป็นต่อการแก้ไขปัญหาโรคเรื้อรังในเด็ก ตั้งแต่โรคสมาธิสั้นไปจนถึงอาการแพ้อาหาร แม้จะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากพอรองรับว่า สีผสมอาหารเป็นสาเหตุของปัญหาเหล่านั้นก็ตาม
ด้านมาคารี กล่าวว่า FDA จะเริ่มดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตสำหรับสีผสมอาหารสังเคราะห์ 2 ชนิดภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ และจะทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อหยุดใช้สีผสมอาหารอีก 6 ชนิดภายในสิ้นปีหน้า พร้อมเสนอให้ผู้ผลิตอาหารใช้ส่วนผสม เช่น น้ำแตงโม น้ำบีทรูท และน้ำแครอทเพื่อแต่งสีอาหาร โดยยืนยันว่าการเปลี่ยนไปใช้สีธรรมชาติจะไม่ทำให้ราคาอาหารสูงขึ้น
ทั้งนี้ FDA มีแผนที่จะอนุมัติสารเติมแต่งสีธรรมชาติใหม่ 4 ชนิดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ พร้อมทั้งเร่งตรวจสอบและอนุมัติสารเติมแต่งชนิดอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้ ทางหน่วยงานยังวางแผนที่จะร่วมมือกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) เพื่อศึกษาวิจัยว่า สารเติมแต่งอาหารส่งผลต่อสุขภาพและพัฒนาการของเด็กอย่างไรด้วย