นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมของ สส. พรรคเพื่อไทย ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า เป็นสิ่งที่ต้องทำทุกปีอยู่แล้ว และคาดว่าจะมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งอาจจะมีการเรียก สส. ของพรรคเพื่อไทยมาประชุมกัน ทั้งนี้ ปีนี้จะเข้าสู่ปีที่ 3 ของสภาชุดนี้ ซึ่งตนเชื่อว่า สส. ทุกคนคงมีประสบการณ์แล้วว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง
นายดนุพร กล่าวต่อว่า แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยจะมีทีมไว้ซัปพอร์ตข้อมูลต่างๆ ในเรื่องงบประมาณ เช่น งบประมาณเหล่านี้ถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างไรบ้าง โดยจะต้องเตรียมคำตอบไว้ตอบฝ่ายค้าน เพราะเขาต้องบอกว่างบประมาณด้านนี้ไม่คุ้ม จัดแบบนี้ไม่ดี ควรนำไปทำอะไรบ้าง และรัฐบาลควรจะต้องรับฟังด้วยว่า อะไรที่ฝ่ายค้านติติงมาแล้วเป็นประโยชน์ หรือแม้แต่อะไรที่เป็นมุมมองที่แตกต่าง รัฐมนตรีก็ควรที่จะต้องชี้แจงเพื่อให้ฝ่ายค้านเข้าใจ
เมื่อถามว่าจะมีการเรียก สส. พรรคมาประชุม นอกจากเตรียมความพร้อมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2569 แล้ว จะมีเรื่องอื่นอีกหรือไม่ นายดนุพร กล่าวว่า ในวันที่ 22 เมษายนนี้ จะยังไม่มีการเรียก สส. มาประชุม อาจจะเป็นอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นการประชุมหลังจากที่ สส. ได้ลงพื้นที่ช่วงปิดสมัยประชุมสภา เพื่อนำปัญหาของประชาชนที่ได้เจอมาพูดคุยกัน ก่อนที่จะส่งต่อให้พรรค และส่งไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดูแล แต่แน่นอนว่า เรื่องการเตรียมความพร้อมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ก็จะต้องมีการพูดคุยกัน
เมื่อถามว่ามั่นใจเสียงโหวตพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ นายดนุพร กล่าวว่า ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีก็ได้มากกว่า 300 เสียง ซึ่งเชื่อว่าในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 นั้น ทั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ก็จะต้องชี้แจงให้ สส. ทุกคนได้เข้าใจว่างบประมาณที่จะผ่านการพิจารณานั้น จะถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชน ที่สำคัญคือหากโหวตแล้วไม่ผ่าน แน่นอนว่าสภาก็จะอยู่ไม่ได้ นายกฯ อาจจะต้องยุบสภาหรือลาออก ซึ่งเป็นธรรมเนียมของสภาไทยอยู่แล้ว ฉะนั้น ตนเชื่อว่าทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
เมื่อถามถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ภายหลังผ่านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2569 แล้ว นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องกระแสการปรับ ครม. นั้น มีทุกครั้งอยู่แล้วหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เท่าที่ตนได้มีการพูดคุยผู้ใหญ่ในพรรคช่วงก่อนจะปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็บอกว่า นายกรัฐมนตรีอยากทำงานอีกสักระยะก่อน แล้วค่อยพิจารณาปรับ และนายกรัฐมนตรียังไม่อยากปรับ ครม. ตอนนี้