ในวันนี้ รถแบ็กโฮ และเครื่องจักรหนัก ยังคงรื้อถอนซากอาคารถล่มอย่างต่อเนื่อง พยายามลดความสูงของโครงสร้างอาคารจนมีความคืบหน้าไปมากกว่าร้อยละ 50
นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่าผลการดำเนินการตั้งแต่เมื่อวานนี้ ยืนยันว่าครบชิ้นส่วนและอวัยวะของมนุษย์ จำนวน 18 เคส พร้อมทรัพย์สินของผู้สูญหายขำนวนหนึ่ง ถูกส่งให้สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ตรวจสอบและพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล
ส่วนผลการดำเนินการหรือซากอาคารถล่ม มีความคืบหน้าไปมาก สามารถนำเศษซากอาคารออกจากพื้นที่ ใส่รถบรรทุกได้มากกว่า 242 เที่ยว ทำให้พื้นที่อาคารถล่มในแต่ละโซนลดระดับความสูง และทำให้พื้นที่แคบลง โดยแผนวันนี้จะเร่งนำซากอาคารออกจากพื้นที่ทั้ง 4 โซน โดยเฉพาะโซน C จะเพิ่มเที่ยวรถบรรทุกขนาดเล็กเข้ามาทำการขนย้าย เพราะเป็นพื้นที่ที่เข้าถึงยาก
ส่วนพื้นที่โซน A และโซน B ที่ทีมนานาชาติเคยตรวจพบสัญญาณชีพจำนวนมากก่อนหน้านี้ เหลืออีกประมาณ 1 เมตร จะถึงพิกัดที่ถูกระบุเอาไว้ คาดว่ามีผู้ติดค้างอยู่บริเวณนี้เป็นจำนวนมาก
รองศาสตราจารย์ ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สำหรับแผนการค้นหาผู้สูญหาย ที่พบชิ้นส่วนเป็นจำนวนมากถูกส่งให้กับสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจตรวจสอบนั้น เบื้องต้นได้ประสานสถานทูตไทpประจำเมียนมา ในการเก็บพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ นำมาเปรียบเทียบ รวมกับจำนวนที่เดินทางมาเก็บดีเอ็นเอที่สถาบันนิติเวช ขณะนี้ที่เก็บแล้วมีจำนวน 97 คน ซึ่งยืนยันว่าจะรื้อโครงสร้างของอาคารถล่มทั้งหมด และขอความร่วมมือกับสุนัข K9 เข้าไปค้นหาอวัยวะผู้สูญหาย ที่อาจจะติดไปกับซากอาคารที่ถูกนำออกจากพื้นที่ไปจัดเก็บไว้ เป็นการตรวจสอบซ้ำเพื่อค้นหาร่างผู้สูญหาย และชิ้นส่วนอวัยวะ ซึ่งทั้งหมดจะถูกส่งตรวจสอบให้สมบูรณ์มากที่สุด เพื่อส่งมอบให้กับญาติผู้เสียชีวิต โดยต้องทำงานอย่างละเอียดและรอบคอบ ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการกู้สร้างอาคารเพิ่มขึ้น
ส่วนแผนการจราจรในพื้นที่ หลังจากที่ผู้ประกอบการร้านค้า บริเวณฝั่งที่มีการปิดถนน จะเข้าพูดคุยและหารือถึงแนวทางในการเปิดทางสัญจร ร่วมกันกับสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อและผู้ประกอบการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้ แต่ไม่สามารถเปิดพื้นที่การจราจรได้ทั้งหมด เนื่องจากในพื้นที่ยังต้องดำเนินภารกิจในการรื้อถอนสร้างอาคารถล่ม รวมถึงยังต้องมีทีมแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมอยู่ในพื้นที่
สำหรับประเด็นในเรื่องเงินค่าช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่กนุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ว่าผู้เสียหายได้รับเงินเป็นจำนวนน้อย ไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าการเยียวยาไปไปตามระเบียบตามหลักเกณฑ์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในเบื้องต้นเป็นค่าวัสดุ ซ่อมแซม กรณีที่ไม่ได้เสียหายทั้งหลัง แต่ยังต้องส่งเจ้าหน้าที่สำนักโยธา สำนักงานเขต เข้าไปตรวจสอบและผ่านการประเมินจากวิศวกรอีกครั้ง เพื่อของประเมินความเสียหาย ประสานไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อของบประมาณในการช่วยเหลือ
ส่วนการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยา เป็นกรณีพิเศษ ทางกรุงเทพมหานคร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมบัญชีกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องเสนอในสภาในวันพรุ่งนี้ ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณา