xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.ป.ป.ช.เรียกผู้ว่าฯ สตง.แจงสร้างตึก สตง. 30 เม.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ย่านจตุจักร ที่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ว่า งบประมาณมากกว่า 2 พันล้านบาท สำหรับการก่อสร้างอาคาร สตง. มาจากเงินสะสมของหน่วยงาน ซึ่งคือเงินงบประมาณที่เหลือในแต่ละปีที่ สตง. เก็บสะสมไว้เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารสำนักงานของตัวเอง เพราะถ้าเป็นการของบประมาณจากสภาผู้แทนราษฎร เชื่อว่า ไม่มีทางได้รับการอนุมัติจากสภาฯ อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นเงินจำนวนมาก จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

สิ่งที่ กมธ.ป.ป.ช. ตั้งประเด็นตรวจสอบคือ การก่อสร้างอาคารภาครัฐที่ใช้งบประมาณมหาศาลเช่นนี่มีการทุจริตหรือไม่ และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง เช่น เหล็ก ปูนซีเมนต์ หิน หรือทราย มีคุณภาพได้มาตรฐานหรือไม่ ได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญให้เป็นไปตามขั้นตอนของการสร้างอาคารขนาดสูงหรือไม่ ซึ่ง กมธ.จำเป็นต้องได้ข้อมูลโดยละเอียดจากผู้บริหารหน่วยงาน จึงได้เชิญผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาชี้แจงและให้ข้อมูลแก่ กมธ.ในวันที่ 30 เม.ย.68 นี้ ทั้งนี้ กมธ.เคยเชิญผู้ว่าการ สตง.มาชี้แจงแล้วครั้งหนึ่ง แต่ทาง สตง.ขอเลื่อน

นายฉลาด กล่าวว่า หากไม่เกิดโศกนาฏกรรมและความสูญเสีย ปัญหาของอาคาร สตง. ก็จะถูกซุกอยู่ใต้พรม จนกว่ามีเหตุ และความสูญเสีย ซึ่งก็ถือเป็นอุทาหรณ์ ที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่างเพื่อเป็นกรณีศึกษา ไม่ว่าจะเรื่องที่มาที่ไปของฟลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชน รายละเอียดสัญญาจ้างงาน การอนุมัติตรวจสอบแบบ การรับรองโดยบุคลากรวิชาชีพ มาตรฐานการควบคุมงาน ตลอดจนวัสดุต่างๆที่นำมาใช้ได้มาตรฐานหรือไม่ ทั้งหมดนี้ผู้ว่าการ สตง.ต้องมาชี้แจงโดยละเอียด

นอกจากนี้ ในวันเดียวกันก็ได้เชิญปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม มาให้ข้อมูลในส่วนของมาตรฐานต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนของวัสดุที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ไม่เป็นไปตามมาตรฐานจนเป็นสาเหตุทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ รวมทั้งอาจมีการทุจริตคอร์รัปชันอย่างมโหฬาร ในส่วนของวิศวกร และบริษัทผู้ออกแบบอาคาร สตง. ก็ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอสรับ และมีความเป็นกลาง มาให้ความคิดเห็นตามหลักวิชาชีพว่า การออกแบบก่อสร้างมีความเหมาะสมคุ้มค่าหรือไม่ การใช้วัสดุอุปกรณ์เป็นไปตามมาตรฐาน มีคุณภาพหรือไม่ ซึ่งเหล่านี้สามารถเชื่อมโยงไปถึงเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันหรือไม่

นายฉลาด ย้ำว่า ส่วนตัวมองว่าจะไม่เกิดเหตุเช่นนี้หากไม่มีนอกใน และยึดถือหลีกวิชาชีพ ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องทั้งหมดจะถูกเชิญมาชี้แจงต่อ กมธ.เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง ให้คำตอบกับสังคม เป็นบรรทัดฐานในอนาคต ทั้งนี้ หากพบข้อมูลว่า มีข้าราชการทุจริตประพฤติมิชอบ กมธ.ก็จะส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรสบปรามการทุจริตแห่งขาติ (ป.ป.ช.) ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการต่อไป เชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน เพราะมีข้อมูลหลายประเด็นที่เปิดเผยทางสื่อหลายแขนงแล้ว

ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่า ปี 2563 สตง. ได้จัดซื้อโทรศัพท์บ้านแบบอะนาล็อกจำนวน 2,000 เครื่อง งบประมาณกว่า 13.6 ล้านบาทนั้น นายฉลาด กล่าวว่า ถ้ามีการจัดซื้อจริง ก็ต้องตรวจสอบว่า มีการนำมาใช้งานจริงบ้างหรือไม่ เพราะก่อนปี 2563 ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือใช้งานอยู่แล้ว ส่วนราชการเอง ก็จัดซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตลอดจนสมาร์ทโฟนให้แก่ผู้บริหารและข้าราชการกันเป็นเรื่องปกติ ไม่น่าจะมีเหตุความจำเป็นที่ต้องไปใช้งบประมาณถึง 13.6 ล้านบาท  สำหรับโทรศัพท์ตั้งโต๊ะรุ่นเก่าเช่นนี้ แต่ก็มักพบบ่อยๆ ว่า หน่วยราชการจะมีข้ออ้างในซื้อของที่ไม่จำเป็น รวมทั้งยังราคาแพงกว่าปกติ เพราะมีการบวกกำไรเข้าไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณเช่นนี้