ความคืบหน้ากรณี "ฮอต" ไฮโซเก๊ ที่อ้างรู้จักคนใหญ่คนโต หลอกลวง น.ส.วริญญารัตน์ หรือ "คะน้า" แต่งงาน จนถูกฝ่ายหญิงออกมาแฉว่าเป็นจอมลวงโลก ไฮโซเก๊ฉวยโอกาสระหว่างถูกตำรวจสอบปากคำ กระโดดจากชั้น 3 ของ สน.โคกคราม ร่วงพื้นได้รับบาดเจ็บ และเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผู้กำกับการ สน.โคกคราม เปิดเผยอาการของนายฮอต ว่า ผลการเอกซเรย์ แพทย์พบกระดูกสันหลังแตกแต่ไม่ได้ร้ายแรง ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ให้ออกจากโรงพยาบาลได้ แต่ให้ใส่เสื้อบล็อกหลังไว้
พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม รับตัวนายฮอต ออกจากโรงพยาบาล และนำตัวส่งศาลอาญาตลิ่งชันทันทีเมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) เนื่องจากมีหมายจับของศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ไม่มาตามนัดศาล คดีฉ้อโกงเมื่อปี 2564 ทั้งนี้ นายฮอต ไม่ได้ยื่นขอประกันปล่อยตัวชั่วคราว จึงคุมตัวฝากขังเรือนจำ
ส่วนคดีแอบอ้างเบื้องสูง พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหายและพยานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพราะพฤติกรรมของนายฮอต เข้าข่ายความผิดหลายข้อหา ทั้งฉ้อโกง แอบอ้างเบื้องสูง มาตรา 112 ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดเกี่ยวกับการแอบอ้างแต่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานก่อน แต่คาดว่าในส่วนของความผิดตามมาตรา 112 หลักฐานค่อนข้างชัดเจน ทั้งจากหลักฐานแชต และคำให้การของคะน้า ทำให้มีมูลฟังได้ว่ากระทำผิด จึงน่าจะสามารถออกหมายจับได้ภายในสัปดาห์นี้
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เปิดเผยถึงกรณีที่นายฮอต แอบอ้างว่า พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ให้การช่วยเหลืออดีตแฟนหนุ่มของ "คะน้า" เพื่อนำไปอวดอ้างว่ารู้จักกับคนใหญ่คนโต และกรณีแอบอ้างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ "คะน้า" จ่ายค่าแชมเปญ 98,000 บาท เพื่อมอบเป็นของขวัญตอบแทนให้นายกรัฐมนตรี โดยทั้ง 2 คดีนี้ พนักงานสอบสวน บก.สอท.1 ออกหมายเรียกนายฮอตแล้ว ให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน วันที่ 17 เมษายนนี้
นอกจากนี้ กรณีที่เพจ Drama-addict แชร์ภาพนายฮอต และคะน้า ไปนั่งร่วมประชุมกับเหล่านายทหารระดับสูงของกองทัพอากาศ พร้อมกับระบุข้อความว่า "มันไปนั่งรวมกับเขาได้ไง งง!" พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ออกมาชี้แจงที่มาที่ไปของภาพดังกล่าว ยืนยันว่าชายคนนี้มากับแฟนสาว และภาคเอกชนอีกหลายคน ที่ร่วมเดินทางไปปฏิบัติภารกิจมอบสิ่งของผู้ประสบภัยที่ จ.เชียงราย และเป็นการประชาสัมพันธ์ภารกิจกองทัพด้วย โดยก่อนการเดินทาง เจ้าหน้าที่จะสรุปแผนการเดินทางและการปฏิบัติตัวของผู้โดยสารให้ฟัง ซึ่งกองทัพอากาศปฏิบัติกับผู้ร่วมเดินทางแบบนี้ทุกคน
ยืนยันว่า ไม่มีใครได้สิทธิพิเศษใดๆ และตอนนั้นไม่มีใครทราบว่าชายคนดังกล่าวเป็นบุคคลหลอกลวง ต้มตุ๋น จากนี้การทำงานกับพลเรือนจะเข้มงวดให้มากขึ้น