นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า #อาจารย์อมรต้องออกมาพูดเพื่อรักษาแพทยสภา
หลังจากที่มีเอกสารเผยแพร่ ของคณะกรรมการบริหารของแพทยสภา เรื่องเลื่อนการพิจารณาจริยธรรมของแพทย์รพ.ตำรวจและ รพ.ราชทัณฑ์ ที่มีกำหนดการพิจารณาในวันที่ 10 เมษายนนี้
ผมได้รับโทรศัพท์ จากเพื่อนแพทย์หลายท่าน ให้ช่วยกระตุกไปที่แพทยสภา แพทย์ส่วนใหญ่ไม่เชื่อ เพราะมองว่ากรรมการบริหารแพทยสภาถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซง เพราะเหตุผลที่แถลง ย้อนแย้งและฟังไม่ขึ้น
ถ้าเรามองย้อนเรื่องร้องเรียน ต้องยอมรับก่อนว่าเรื่องนี้มีมูล แพทยสภาจึงได้ตั้ง อนุกรรมการสอบสวน ชุดเฉพาะกิจ โดยมี ศ.เกียรติคุณนพ.อมร ลีลารัศมี เป็นประธานอนุฯ
ประธานอนุสอบสวนชุดเฉพาะกิจ ได้มีหนังสือถึงร.พ.ตำรวจ และร.พ.ราชทัณฑ์ ลงวันที่16 ธันวาคม 2567 ให้ส่งเวชระเบียน ใบความเห็นแพทย์ที่รักษา ใบส่งต่อ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ให้ส่งมาให้คณะอนุกรรมการสอบสวน ชุดเฉพาะกิจภายใน วันที่ 15 มกราคม 2568
15 มกราคา 2568 ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี ประธานอนุฯ ได้ออกมาพูดว่า รพ.ตำรวจส่งเอกสารมาให้บ้างแล้ว หากมีประเด็นที่อนุกรรมการสอบสวนติดใจสงสัย ก็อาจต้องเรียกแพทย์รพ.ตำรวจแต่ละคนที่เกี่ยวข้อง มาสอบถามต่อไป ก็พยายามให้เสร็จภายในไม่เกินเดือนมีนาคมนี้
26 มีนาคม 2568 ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภาฯ ในฐานะประธานอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภา ได้ให้ข้อมูลผ่านสื่อว่า
การสอบสวนเสร็จแล้ว เหลือขั้นตอนสรุปทำรายงานและตรวจร่างรายงาน แต่กระบวนการสอบสวนการเก็บข้อมูล ถือว่าเสร็จครบหมดแล้ว 99.99 เปอร์เซ็นต์
รวมถึงตัวแพทย์รพ.ตำรวจ ก็เดินทางมาชี้แจง กับอนุกรรมการหมด คนที่เกี่ยวข้องที่ถูกร้อง ก็มาชี้แจง กับอนุกรรมการหมดทุกคน พร้อมชงที่ประชุมใหญ่กรรมการแพทยสภาลงมติชี้ขาด 10 เม.ย.นี้
จู่ๆในวันที่ 3 เมษายน มีเอกสารเผยแพร่ ของกรรมการบริหารแพทยสภา ว่ายังไม่มีการบรรจุเรื่องการพิจารณา ของแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตํารวจ ในวันที่ 10 เมษายนนี้ โดยให้เหตุผล ได้รับเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมจากรพ.ตำรวจ และรพ.ราชทัณฑ์ และอ้างว่าเอกสารจำนวนมาก ต้องใช้เวลาพิจารณา
มีเพื่อนแพทย์หลายท่านไม่เชื่อ ต่อเอกสารที่กรรมการบริหารแพทยสภาแถลง มีเหตุผลสรุปได้ดังนี้
1.อนุกรรมการชุดศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี ได้กำหนดเวลาส่งเอกสาร 15 มกราคม 2568 ซึ่งล่วงเลยมานานมาก ที่สำคัญข้อมูลที่ได้รับ และการสอบปากคำตัวบุคคล นั้นเพียงพอ ตามที่ประธานอนุฯเคยแถลง
2.เอกสารแถลงของ กรรมการบริหารแพทยสภา ว่ามีเอกสารจาก สองโรงพยาบาลจำนวนมาก ต้องใช้เวลาพิจารณาฟังไม่ขึ้น ส่อในการบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเอกสารจากรพ.ราชทัณฑ์ แทบไม่ควรจะมี ตามที่อ้าง เนื่องจากนักโทษ ไม่ได้ admit ที่รพ.ราชทัณฑ์เลย
3.แม้รพ.ตำรวจจะมีเอกสารมาก แต่การพิจารณาเอกสาร ทางการแพทย์ที่พิจารณาเรื่องจริยธรรม ไม่เหมือนคดีอื่นๆ ด้วยหลักการแล้วจะพิจารณาเป็นประเด็น จึงเป็นการพิจารณาไม่ซับซ้อน ไม่ใช่พิจารณาตัวหนังสือ ชนิดคำต่อคำ ถ้าพุ่งไปสู่ประเด็นได้ แทบไม่ต้องใช้เวลา เพราะการสอบปากคำจบแล้ว ซึ่งจะเสียเวลามากกว่า
สิ่งที่เกิดขึ้น จึงเกิดข้อสงสัยว่า กรรมการบริหารแพทยสภา กำลังถูกการเมืองเข้าไปครอบงำ แทรกแซง ผู้มีเครดิต ความน่าเชื่อถือในเรื่องนี้ มี ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี คนเดียวเท่านั้น
จึงขอเรียกร้องให้อาจารย์อมร ในฐานะ ประธานอนุฯ เป็นผู้ชี้แจง เพื่อรักษาเกียรติคุณ และความน่าเชื่อถือของแพทยสภา ก่อนที่องค์กรแพทยสภาจะพัง ไปพร้อมกับชั้น14 รพ.ตำรวจ และ รพ.ราชทัณฑ์