พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงการช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุตึกถล่มจากแผ่นดินไหว ว่า เรื่องการเยียวยาจะเกิดขึ้นตามพระราชบัญญัติที่มีการกระทำผิดทางอาญาเกิดขึ้น ซึ่งกรณีดังกล่าวหากมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ ประมาททำให้เสียชีวิต ถือเป็นฐานความผิดทางอาญา ก็จะไปเข้าข้อกฎหมาย แต่ในการช่วยเหลือเยียวยาของเหตุภัยพิบัติ มีหลายกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานที่ดูแลโดยตรง อย่างกระทรวงมหาดไทย สำนักนายกรัฐมนตรี ก็ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ซึ่งในส่วนของรัฐบาลมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเหมือนโศกนาฏกรรม ต้องดูแลช่วยเหลือเต็มที่ ดังนั้นการเยียวยาทางด้านจิตใจและที่เป็นตัวเงินจะต้องมี ซึ่งในการเยียวยาเหตุภัยพิบัติสามารถทำได้เลย ไม่ต้องรอให้คดีสิ้นสุด นอกจากนี้ รัฐบาลอาจจะมีมติคณะรัฐมนตรีในการช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติม
อกจากนี้ ได้จัดเจ้าหน้าที่จิตวิทยาเข้าไปดูเกี่ยวกับสภาพจิตใจ แต่ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม มีอยู่ 3 ประเด็นที่จะเข้าข่ายความผิด 1. การประกอบธุรกิจบุคคลต่างด้าว ที่ใช้นอมินี เท่าที่ดูจากงบการเงินที่เผยแพร่กันอยู่ ของบริษัทดังกล่าว ขาดทุนมาตลอด และไม่มีการเสียภาษี อีกทั้งมีการนำเงินของบริษัทไปให้กรรมการกู้จำนวน 2 พันล้านบาท แม้อำนาจที่แท้จริงจะให้ต่างชาติ 49% ไทย 51% แต่หากมองในลักษณะมีอำนาจครอบงำ จะเห็นในเรื่องของการบริหาร ดังนั้นจึงต้องเข้าไปดู ประกอบกับการตรวจสอบสถานที่เดียวกัน กลุ่มคนเดียวกัน มีบริษัทในลักษณะนี้ 10 บริษัท ซึ่งต้องดูว่ามีการกระทำใดที่เป็นความผิดในพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจบุคคลต่างด้าว และเข้าข่ายที่จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าไปดำเนินการหรือไม่ และประเด็นที่ 2. หากสินค้าไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม ดีเอสไอมีอำนาจในการสอบสวน และ3.การจัดซื้อจัดจ้าง ที่เรียกว่าฮั้วประมูล หากเกินกว่า 30 ล้านบาทขึ้นไป กรมสอบสวนคดีพิเศษก็มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบ เพราะเบื้องต้นเห็นว่าต่ำกว่าราคากลางเพียง 1% เท่านั้น ปกติการประมูลที่ไม่มีการแข่งขัน ควรต่ำกว่า 10-15%
เมื่อถามว่าบริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 มีบริษัทเครือข่ายเดียวกันกว่า 24 บริษัท พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ทราบจากการรายงานของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือการตรวจสอบว่า เพราะเหตุใดถึงเกิดเหตุแค่ตึกเดียว ก็จะดูว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ ซึ่งมีข้อมูลทางทะเบียนไปตรวจสอบ เรื่องการเสียภาษี ที่เกี่ยวกับกรมสรรพากร รวมถึงการตรวจสอบในเชิงลึก คือการนำบุคคลที่เกี่ยวข้องมาซักถาม ก็จะได้ข้อมูล ก็ได้กำชับให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งดำเนินการ
ส่วนจะพุ่งเป้าไปที่บริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ก่อนใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรมร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ ปัจจุบันต้องยอมรับ ว่า เศรษฐกิจของไทยเหมือนจีดีพีจะโต แต่คนไทยไม่ได้ประโยชน์ จึงจะไปดูว่าหากเราบังคับใช้กฏหมายธุรกิจของคนต่างด้าวให้เป็นไปตามกฏหมาย เงินที่จะไปสู่คนต่างด้าวเพียงอย่างเดียว ต้องกลับมาหาคนไทย 51% ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเคสนี้ แต่จะดูธุรกิจทั้งหมดที่คนต่างด้าวดำเนินการ โดยให้สำนักความมั่นคงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปดูเรื่องนอมินีทั้งหมด