พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุตึกสูง 30 ชั้นถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เพื่อเร่งช่วยเหลือคนงานที่ยังคงติดค้างอยู่ภายใน
ทั้งนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า พบเห็นกลุ่มบุคคล 4 คน นำเอาเอกสารออกจากบริเวณด้านหลังของอาคารที่พังถล่ม ตำรวจจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการติดตามตัว กระทั่งพบกับชายชาวจีน 1 คน ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่เกิดเหตุ อ้างตัวเป็นผู้อำนวยการโครงการเกี่ยวกับการขอก่อสร้างตึก
จากการสอบปากคำ พร้อมตรวจสอบวีซ่าใบอนุญาตทำงานและหนังสือเดินทาง พบว่า มีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง และมีเอกสารที่ยืนยันว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวทำงานอยู่ในบริษัท ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้ากับบริษัทอิตาเลียนไทย และจากการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด 32 รายการ พบเป็นเอกสารหลายชนิด เช่น เอกสารผู้รับเหมาก่อสร้าง สำเนาอาร์เอฟไอ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับคำชี้แจงหนังสือแจ้งให้ตรวจสอบงานทั่วไป เอกสารขอความคิดเห็นและทำการชี้แจงเอกสารผู้รับเหมา เอกสารผู้รับเหมาเช่าช่วงและเอกสารเกี่ยวกับผู้รับเหมา 3-4 รายการ และ เอกสารงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้าและขนส่ง พนักงานสอบสวนจึงทำการตรวจยึดไว้ตรวจสอบต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า พบเห็นกลุ่มบุคคล 4 คน นำเอาเอกสารออกจากบริเวณด้านหลังของอาคารที่พังถล่ม ตำรวจจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการติดตามตัว กระทั่งพบกับชายชาวจีน 1 คน ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่เกิดเหตุ อ้างตัวเป็นผู้อำนวยการโครงการเกี่ยวกับการขอก่อสร้างตึก
จากการสอบปากคำ พร้อมตรวจสอบวีซ่าใบอนุญาตทำงานและหนังสือเดินทาง พบว่า มีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง และมีเอกสารที่ยืนยันว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวทำงานอยู่ในบริษัท ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้ากับบริษัทอิตาเลียนไทย และจากการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด 32 รายการ พบเป็นเอกสารหลายชนิด เช่น เอกสารผู้รับเหมาก่อสร้าง สำเนาอาร์เอฟไอ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับคำชี้แจงหนังสือแจ้งให้ตรวจสอบงานทั่วไป เอกสารขอความคิดเห็นและทำการชี้แจงเอกสารผู้รับเหมา เอกสารผู้รับเหมาเช่าช่วงและเอกสารเกี่ยวกับผู้รับเหมา 3-4 รายการ และ เอกสารงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้าและขนส่ง พนักงานสอบสวนจึงทำการตรวจยึดไว้ตรวจสอบต่อไป