xs
xsm
sm
md
lg

SCB EIC คาดสงครามการค้าแผลงฤทธิ์ครึ่งปีหลัง หั่นเป้าส่งออกปี 68 เหลือ 1.6%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่า แนวโน้มมูลค่าส่งออกไทยปี 2568 จะขยายตัวได้ 1.6% ลดลงจากประมาณการเดิม 2% (พ.ย.67) และต่ำกว่าเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลที่ตั้งไว้ราว 3-3.5% เนื่องจาก SCB EIC มองว่าปัจจัยสนับสนุนการส่งออกไทยในไตรมาสแรก ส่วนมากเป็นปัจจัยชั่วคราว เช่น การส่งออกทองคำผสมโลหะไปอินเดีย ขณะที่แรงกดดันต่อเศรษฐกิจและการค้าโลกจะเพิ่มขึ้นมากในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะไตรมาส 4

ส่วนมูลค่าการส่งออกเดือนมีนาคม SCB EIC ประเมินว่า จะยังขยายตัวได้ดี จากอานิสงส์วัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น แนวโน้มการเร่งสั่งซื้อของประเทศคู่ค้า ก่อนนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ การส่งออกทองคำ รวมถึงทองคำในรูปแบบโลหะอื่นไปยังอินเดีย ก่อนรัฐบาลอินเดียจะเริ่มปรับปรุงเกณฑ์ช่องว่างการนำเข้าทองคำ นอกจากนี้ ปัจจัยฐานต่ำเดือนมีนาคม 2567 ที่หดตัวมากถึง -10.5% จะสนับสนุนการส่งออกในเดือนมีนาคม ปีนี้ได้

พร้อมวิเคราะห์ว่า ทิศทางการส่งออกไทย มีแนวโน้มชะลอลงมากในไตรมาส 2 และจะหดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง เป็นผลจากการใช้นโยบายกีดกันการค้า การลงทุน และการอพยพและการเคลื่อนย้ายแรงงาน ที่จะเกิดขึ้นกับหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะการกีดกันจากสหรัฐฯ ส่งผลให้เศรษฐกิจและบรรยากาศการค้าระหว่างประเทศ มีแนวโน้มชะลอตัวลง รวมถึงผล Front load การเร่งผลิตและส่งออกช่วงปลายปีก่อน และต้นปีนี้จะทยอยหมดลง อานิสงส์วัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้นเริ่มลดลง

นอกจากนี้ ปัจจัยฐานสูงจากช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จะกดดันการส่งออกในครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากมูลค่าการส่งออกไทย ขยายตัวมากถึง 7.5% และ 10.5% ในไตรมาส 3 และ 4 ของปี 2567 ซึ่งเทียบกับครึ่งแรกของปี 2567 ที่ขยายตัวได้ 1.9%

สำหรับการส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เร่งตัวได้สูงถึง 14%YOY มูลค่า 26,707.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อเนื่องจากการขยายตัว 13.6% ในเดือนม.ค.68 โดยภาพรวมการส่งออกไทยช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ ขยายตัว 13.8% โดยการส่งออกทองคำและประเด็นพิเศษทองคำ ยังคงเป็นปัจจัยหนุนการส่งออกที่สำคัญในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยการส่งออกสินค้ากลุ่มโลหะมีค่า และของที่หุ้มด้วยโลหะมีค่าอื่นๆ ขยายตัวมากถึง 4,160% ต่อเนื่องจาก 3,418%

โดยเกือบทั้งหมด เป็นการส่งออกทองคำในรูปของทองคำผสมแพลทินัมในสัดส่วนน้อย ไปยังตลาดอินเดีย เพื่อประโยชน์ทางภาษีของผู้นำเข้าอินเดีย ซึ่งเริ่มเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน และชัดเจนขึ้นในเดือนธันวาคม 2567 ที่ขยายตัวมากถึง 524,302% นอกจากนี้ การส่งออกทองคำยังไม่ขึ้นรูปยังขยายตัวสูงมากถึง 26.1% ต่อเนื่องจาก 148.9% ในเดือนก่อน โดยเฉพาะตลาดสวิตเซอร์แลนด์ (339.5%) ตลาดสิงคโปร์ (277.1%)

การส่งออกทองคำ รวมถึงสินค้ากลุ่มโลหะมีค่า และของที่หุ้มด้วยโลหะมีค่าอื่นๆ เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัดนี้ มีส่วนทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ขยายตัวมากถึง 6.1% ทั้งนี้ หากพิจารณามูลค่าการส่งออกที่ไม่รวมทองคำ และสินค้ากลุ่มโลหะมีค่าและของที่หุ้มด้วยโลหะมีค่าอื่นๆ นี้ (เพื่อให้สะท้อนกิจกรรมการส่งออกที่เกิดขึ้นจริง) พบว่าขยายตัวที่ 8.2% (เทียบกับเดือนก่อนที่ 6.2%)

SCB EIC ระบุว่า นอกจากปัจจัยทองคำแล้ว การส่งออกไทยเดือนกุมภาพันธ์นี้ ยังคงได้รับแรงส่งจากวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น และการเร่งส่งออกก่อนนโยบายกีดกันการค้าสหรัฐฯ ต่อเนื่องจากเดือนก่อน (ม.ค.) ประกอบกับการนำเข้าของจีนที่เพิ่มขึ้นหลังเทศกาลตรุษจีน สะท้อนจาก

1) การส่งออกคอมพิวเตอร์ขยายตัวมากถึง 51.3% ต่อเนื่องจาก 45% ในเดือนก่อน โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ (35.2%) และตลาดจีน (230.3%)

2) การส่งออกไปสหรัฐฯ ขยายตัวมากถึง 18.2% และขยายตัวทั่วถึงหลายกลุ่มสินค้าหลัก โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (35.3%) เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ (92.8%) ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับสงครามการค้าโดยตรง

3) การส่งออกไปจีนขยายตัวมากถึง 22.4% โดยขยายตัวดีในหลายสินค้า โดยเฉพาะสินค้าขั้นกลางที่ไทยส่งออกไปจีน และเกี่ยวเนื่องกับห่วงโซ่การผลิตจีนที่อาจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า อาทิ ผลิตภัณฑ์ยาง (41.6%) ยางพารา (69.8%) เคมีภัณฑ์ (50.5%) รวมถึงการส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบไปจีนขยายตัวดี (230.3%)

ด้านมูลค่าการนำเข้าสินค้าเดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ 24,718.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวชะลอลงเหลือ 4% เทียบกับการนำเข้าเดือนมกราคม 2568 ที่ขยายตัว 7.9% แม้การนำเข้าจะขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือน แต่การนำเข้าหักทองคำลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ที่ -0.5% สะท้อนว่าช่วงปีก่อนไทยนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นมาก เพื่อส่งออกต่อ หรือเพื่อเติมสินค้าคงคลังจากการส่งออกทองคำ และทองคำผสมเพิ่มขึ้นมาก แม้การนำเข้าสินค้าทุน ยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง และสินค้าเชื้อเพลิงหดตัว -11.8% -8.6% และ -5.7% ตามลำดับ การนำเข้าอาวุธและยุทธปัจจัย สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (รวมทองคำ) สินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัว 143.5%, 12.8% และ 10.3% ตามลำดับ ส่งผลให้เกินดุลการค้า 1,988.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์ และเกินดุลรวม 108 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 68